ทุกนาทีฉันขอแค่ความสุข
ทุกนาทีฉันขอแค่ความสุข
ตอนนั้นฉันตื่นเต้นกับการเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยมาก ความรู้สึกนี้เหมือนการตื่นไปโรงเรียนมัธยมในทุกๆ เช้า แต่ปีที่แล้วโควิดก็พรากเอาชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยไปแบบดื้อๆ กิจกรรมที่ควรจะได้ทำก็หายไปหมดเลย แม้จะไม่ได้กระทบกับการเรียนฉันเท่าไรนัก เพราะไม่ได้ปรับตัวมากตอนมัธยมปลายก็ผ่านมาได้แล้ว
สิ่งที่ทุกคนกำลังจะอ่านต่อไปนี้คือเรียงความที่ได้ทำส่งอาจารย์ในหัวข้อ "ถ้าคุณทราบว่าคุณมีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้อีกแค่สามชั่วโมงเท่านั้น คุณจะทำอะไรบ้าง” มีบางประโยคที่ชอบและคิดว่าคนที่อ่านเองคงจะชอบเหมือนกัน และหลังจากอ่านเสร็จก็อยากจะถามประโยคคำถามที่ฉันเองไม่อยากจะได้คำตอบ แต่ให้ตอบภายในใจตัวเองเบาๆ
ถ้าจะกล่าวว่าโลกใบนี้ช่างโหดร้ายเสียจริงให้เวลา คนที่อายุยังน้อยเหลือแค่สามชั่วโมง คิดว่าคนที่ตัดกิเลสละทางโลกคงนอนรอความตายที่อยู่ตรงหน้า ส่วนคนที่ยังตัดขาดจากโลกภายนอกไม่ได้คงมีหลายสิ่งที่อยากจะทำ ตอนยังมีชีวิตอยู่ใช้เวลาที่มากมายก่ายกองทำเรื่องที่มีความสุขและความทุกข์หลากหลายสิ่งที่ปะปนกันไป
นิยามความสุข
ถ้าให้นิยามความสุขของหลายๆ คนย่อมแตกต่างกันออกไป บ้างคนของแค่มีเงินใช้แม้จะไม่ร่ำรวยแต่ของแค่ร่างกายแข็งแรง ดั่งประโยคที่จำขึ้นใจมาตลอดว่าการที่เราไม่มีโรคนั่นเป็นลาภอันประเสริฐ
เมื่อกล่าวถึงนาทีแรกที่ได้ลืมตามาบนโลกใบนี้ก็จำไม่ได้เสียแล้วมีใครที่อยู่ข้าง ๆ บอกว่ารักเรากี่พันครั้ง แม้เราจะทำผิดเขาไม่เคยคิดจะตัดเราออกจากชีวิตและบ้านเล็กๆ ที่เรียกว่า “ครอบครัว” ชีวิตและเวลาในตอนวัยเด็กนั้นก็เริ่มจะเลือนหายตามอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ทําไมคนเราต้องเก็บเอาความคิดของใครบ้างคนมาคิดแทนที่ความทรงจำอันมีค่ามากกว่าความคิดของคนพวกนั้น
มิตรภาพ
เพื่อนไม่ว่าจะอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตหรือโลกในชีวิตจริงขึ้นชื่อว่ามิตรภาพย่อมสวยงามเสมอ แต่จะน่าเศร้าไปไหมถ้าจะไปบอกว่าเราเหลือเวลาไม่มากจะมาบอกลา คนที่จะเจ็บปวดกับคําบอกลาจะเป็นเราหรือเขาที่จะเจ็บปวด ขึ้นชื่อว่าจากลาจะจากเป็นหรือจากตายผลสุดท้ายก็เสียใจเท่ากัน เวลาที่ได้อยู่กับเพื่อนเรามักจะหาเรื่องคุยร้อยแปดเรื่องราวมาพูดคุย แค่เพียงความคิดความชอบเหมือนกันเวลาอยู่ด้วยกันแทบไม่ต้องอึดอัดหรือฝืนความรู้สึก มีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยกันแม้จะผ่านไปนานเท่าไร เรายังสามารถเอาอตีดที่ผ่านมากลับมาเล่าใหม่เหมือนภาพยนตร์ที่เราชอบจะเอามาฉายอีกกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เพียงแต่สถานที่ที่เราเจอกันช่วงเวลานั้นคงเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่อาจจะเหมือนเดิมได้ เราคงทำได้เพียงคิดถึงช่วงเวลาในขณะนั้น เพื่อนบนโลกอินเตอร์เน็ตแม้จะไม่เคยเจอหน้าหลายคนคงกลัวว่าโลกอินเตอร์นั้นดูโหดร้าย เพราะมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าหลอกลวงบ้าง แต่เราจะระแวงตลอดเวลาคงไม่มีความสุขพอดีเชื่อว่าคนที่เราพูดคุยบนโลกอินเตอร์เน็ตคงจะระแวงเราไม่แพ้กัน
เวลา
เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากคงอยากพูดกับครอบครัว ญาติ ว่าตั้งแต่ที่เกิดมาขอบคุณความรัก ความอบอุ่น ความเอ็นดู ที่มอบให้แก่ลูกหลานคนนี้มาตลอด แม้ในบ้างครั้งอาจจะดื้อไม่เชื่อฟังคําขอโทษอาจจะดูไม่สาย แต่วินาทีที่เหลือเวลาไม่มากยังดีที่ได้กล่าวออกไปอย่างน้อยก็ไม่มีอะไรมาอัดอั้นตันใจติดค้างภายในใจ นาทีที่จะเกิดอุบัติเหตุครั้งหนึ่งไปเที่ยวทะเลทรายกับครอบครัวของเพื่อน เรือที่เราสามคนนั่งไปด้วยในใจที่ว้าวุ่นคิดได้แค่ว่า นี่เราจะตายแล้วเหรอเรายังไม่ได้ดูแลพ่อแม่ยังอยากจะมีท่านในช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิต ตายายที่บ่นทุกวันเรายังไม่เคยพูดดีๆ ขอโทษที่ชอบว่าเวลาบ่นครั้งนี้กลับคิดได้ นี่สินะที่เขาว่าคนจะคิดได้เมื่อสายเกินไป
เวลาของความสุขเริ่มน้อยลงเข้ามาทุกนาทีแต่จะไม่เสียใจอีกต่อไปเพราะได้บอกลาคนที่รัก ทั้งหมดแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าหมดแล้วจริงๆ แต่ยังไม่หมดเมื่อเรายังมีเพื่อนอีกคนที่อยู่กับเราตลอดเวลาในทุกช่างอายุเขาจะเติบโตพร้อมๆ เราก็ตัวเรายังไงล่ะ
ฝึกบอกรักตัวเอง
บอกรักทุกคนได้แต่อย่าลืมบอกรักตัวเราเอง
“เรานี่เก่งที่สุดแล้ว ไม่เป็นไรล้มเหลววันนี้ ใช่ว่าพรุ่งนี้จะไม่มี"
ลองยืนหน้ากระจกแล้วคิดถึงเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่มองกระจกเห็นแค่ใบหน้าแต่ตอนนี้สัดส่วนร่างกายในกระจกไม่ได้เห็นแค่ใบหน้านั้นแล้ว ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิมแต่สิ่งที่เหมือนเดิมก็คือตัวเรา เราคงจะบอกรักหรือว่าขอโทษหลายๆ คน แต่ที่หลายคนลืมก็คือลืมบอกรักตัวเอง เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจำได้ขึ้นใจว่าเราเคยบอกรักคนรอบข้างมามากมายหลายครั้งนับไม่ถ้วน แต่เราลืมสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เวลาที่อยู่หน้ากระจก เคยบอกให้กําลังใจตัวเอง เคยบอกรักตัวเองบ้างไหม ตอนที่ได้อ่านก็คิดไปมาว่า เราเองก็ไม่เคยบอกรักตัวเองหรือให้กําลังใจตัวเองหน้ากระจกเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้บอกว่าเราทำดีแล้ว เราทำดีที่สุด หลายครั้งที่เราเสียใจทําไมเราไม่เคยย้อนมอง ตัวเองในกระจก เวลาเราร้องไห้เราหน้าตาขี้เหร่ขนาดไหน
สามชั่วโมงสุดท้าย
หลายคนอาจจะทำหลายๆ สิ่งในเวลาสามชั่วโมง แต่ที่ทำได้ตอนนี้ก็คงจะยอมรับว่าเวลาสามชั่วโมงนี้ทำให้เรารู้อะไรหลายๆ อย่างว่าคนเราเองก็มีทั้งความสุขความทุกข์ปะปนกันไปมากมาย แม้บางครั้งเราอาจจะฝืนโชคชะตาของเราไม่ได้ บางครั้งความสุขเองก็ไม่จำเป็นต้องมีคนมากมายที่เรารู้จัก ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกเวลาแม้แต่รอเวลาที่นั่งกินข้าว คิดถึงช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งในตอนที่เรากินข้าวก็ทำให้เรามีความสุขสามชั่วโมง
ทุกนาทีฉันขอแค่ความสุข
ทุกนาทีฉันขอแค่มีความสุขแต่ความสุขก็อาจจะอยู่ได้ไม่นาน หลายคนอาจจะบอกว่ามีเงินก็มีความสุขแล้วแต่รู้หรือไม่ว่า ชีวิตคนเราจะสมบูรณ์แบบทุกครั้งหรือ? บางครั้งการมีเงินแต่ว่าต้องทนกับร่างกายที่อ่อนแอลงทุกวัน
ทุกนาทีขอแค่ฉันมีความสุขได้อยู่กับสิ่งที่ฉันรัก ชีวิตนี้ก็ไม่ขออะไรมากมายกว่านี้แล้ว จะไปที่ไหนขอแค่มีสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขแค่นี้ก็เกินพอ แม้ชีวิตของคนเราอาจจะไม่ที่ยั่งยืนก็ตาม
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วฉันอยากจะให้คนที่อ่านคิดดูเล่น ๆ นะคะว่าอยากจะทำอะไร ถ้าได้คำตอบแล้วอย่าลืมนะคะ บอกรักทุกคนได้แต่อย่าลืมบอกรักตัวเราเอง
“เรานี่เก่งที่สุดแล้ว ไม่เป็นไรล้มเหลววันนี้ ใช่ว่าพรุ่งนี้จะไม่มี"