นิยายญี่ปุ่น หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่มีวางขาย - ยาสึชิ คิตากาวะ

หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่มีวางขาย นิยายแนว How to ฉบับวัยรุ่น เขียนโดย ยาสึชิ คิตากาวะ แปลเป็นภาษาไทยโดย หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว เป็นเรื่องราวของโยสุเกะเด็กหนุ่มมัธยมปลายปีที่ 5 เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีเดียวเท่านั้นที่จะต้องตัดสินใจเส้นทางข้างหน้า เขาเองไม่มีความใฝ่ฝัน ไม่มีแรงบันดาลใจ ยังไม่รู้แน่ชัดว่าตัวเองอยากทำงานอะไร อยากเป็นอะไรในอนาคต เขายังไม่อยากทำงานตอนนี้ ไม่สิ…เขาไม่อยากทำอะไรเลยต่างหาก เขาจึงมีแนวโน้มว่าจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยก็เพื่อประวิงเวลาในการตัดสินใจต่ออนาคตข้างหน้าให้ยาวนานขึ้นอีกนิด แต่เขาก็ยังไม่ได้คิดอีกนั่นแหละว่าจะเข้าเรียนคณะสาขาวิชาอะไร และเรียนมหาวิทยาลัยไหน วันหนึ่งก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา ขณะเฝ้าร้านหนังสือให้พ่อ ฮารุกะ เด็กสาววัยเดียวกันที่เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองนี้มาขอให้สั่งซื้อหนังสือให้เล่มหนึ่ง ด้วยความที่อยากรู้จักเด็กสาวเพิ่มมากขึ้น ยาสุเกะซึ่งเกลียดการอ่านหนังสือทุกชนิด ก็เริ่มอ่านหนังสือเล่มนั้น และเฝ้ารอคอยเวลาที่จะได้พบกับฮารุกะในวันที่มารับหนังสืออีกครั้ง และเรื่องราวความเติบโตงอกงามทางความคิดของโยสุเกะ ก็เกิดขึ้นเพราะฮารุกะที่นำพาให้เขาได้รู้จักหนังสือเล่มนั้น

หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่มีวางขาย เขียนโดย ยาสึชิ คิตากาวะ แปลโดย หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว

 

  ชื่อหนังสือ หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่มีวางขาย  
  ผู้แต่ง ยาสึชิ คิตากาวะ  
  ผู้แปล หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว  
  พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2564  
  ผู้จัดพิมพ์ Piccolo อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง  
  ประเภท นิยายญี่ปุ่น  
  แนว วรรณกรรมเยาวชน, How to, Self help, พัฒนาจิตใจ  
  ความยาว 168 หน้า  
  ตัวละครหลัก: โยสุเกะ  
  ตัวละครสนับสนุน:  ฮารุกะ ฟุจิโกะ  
  เรื่องราวเกิดขึ้นที่: ร้านหนังสือของครอบครัวโยสุเกะ  

 

สั่งซื้อหนังสือในรูปแบบ eBook ได้ที่ Meb Market

นิยายญี่ปุ่น หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่มีวางขาย - ยาสึชิ คิตากาวะ

 

ตัวละครในเรื่อง

 

โยสุเกะ - เด็กหนุ่มอายุ 17 ปี กำลังจะขึ้นมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 6 เขายังไม่มีเป้าหมายในชีวิต ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรและต้องการอะไรในชีวิต เขายังไม่อยากทำงานหลังจบมัธยมปลาย จึงคิดว่าจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ไม่อยากจะอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ทั้งนี้ความเป็นจริงแล้วเขาก็ไม่อยากจะทำอะไรเลย การเฝ้าร้านหนังสือให้พ่อดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ทำให้เขามีข้ออ้างในการไม่ต้องอ่านหนังสือ และแล้วปิดเทอฤดูร้อนปีนั้นเขาก็ได้พบกับฮารุกะ ผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนความคิดและทำให้เขามองเห็นเป้าหมายในชีวิตของตนเอง

ฮารุกะ - เด็กสาวอายุ 17 ปี เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองนี้ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนปีนั้น เธอมาปรากฏตัวในร้านขายหนังสือของครอบครัวโยสุเกะ เพื่อสั่งซื้อหนังสือเล่มหนึ่งที่ไม่มีวางขายที่ไหนเลย นั่นเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ฮารุกะได้พบกับโยสุเกะ และการที่หนังสือเล่มนั้นเป็นสิ่งที่เชื่อมเด็กหนุ่มสาวทั้งสองคน ฮารุกะผู้ทำหน้าที่เป็นเหมือนแสงสว่างนำทางชีวิตของโยสุเกะ เธอได้ทิ้งคำขอร้องสองข้อให้โยสุเกะ เพื่อเป็นร่องรอยการมีตัวตนของเธอในฤดูร้อนปีนั้น และมันได้ส่งผลเชื่อมโยงไปยังชีวิตของโยสุเกะในอีกยี่สิบปีต่อมา

พ่อของโยสุเกะ - เป็นพ่อที่เงียบขรึมไม่ค่อยพูด คอยสนับสนุนลูกอยู่ห่างๆ คอยแนะนำหนังสือดีๆ ให้กับลูก แต่โยสุเกะไม่เคยเชื่อฟังพ่อเลย ตามประสาวัยรุ่น

พ่อของฮารุกะ - เป็นไอดอลที่ฮารุกะพูดถึงเสมอ ให้คำแนะนำดีๆ ที่ฮารุกะมักจะนำไปปฏิบัติตาม แล้วก็มาบอกเล่าวิธีคิดของพ่อให้กับโยสุเกะฟัง

ฟุจิโกะ - แม่ของฮารุกะ เป็นแม่ที่รักลูกมาก พยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก และต้องการให้ลูกมีความสุขในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ เป็นผู้หญิงที่สวยมากในสายตาของโยสุเกะ และเป็นคนที่อ่อนโยนจิตใจดี ไม่ได้เป็นคนเย็นชาและอารมณ์แปรปรวนอย่างที่โยสุเกะจินตนาการเอาไว้เลย

ความคิดเห็นหลังอ่าน

ตามที่นักเขียนแทรก How to ประสบความสำเร็จเข้ามาในนิยาย 7 ประการ 1. รู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองต้องการอะไร  2. รู้วิธีทำฝันให้เป็นจริง 3. รู้ความจริงเกี่ยวกับความสำเร็จในแง่ความมั่งคั่ง 4. เป็นคนเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ 5. ไม่นำวิธีการมาเป็นเป้าหมาย 6. ละทิ้งอคติที่ว่าเราทำไม่ได้ 7. ไม่มีอะไรในชีวิตนี้ที่เราทำไม่ได้ ตัวละครค่อยๆ เรียนรู้ทีละขั้นตอน ปฏิกิริยาโต้ตอบทางความคิดของตัวละครที่มีต่อบทเรียน ทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดให้เชื่อทุกอย่างตามนั้น ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเหมือนได้อ่านนิยายแฟนตาซีผจญภัย ตัวละครมีการเดินทางเพื่อค้นหาความต้องการและจุดมุ่งหมายในชีวิตของตัวเอง โดยมีหนังสือเล่มหนึ่งเป็นเหมือนคัมภีร์และฮารุกะเป็นผู้ชี้นำทาง

หนังสือเล่มนี้ให้พลังบวกและความฮึกเหิมในใจ อ่านแล้วแบบเหมือนตื่นขึ้นมาจากกองม่านหมอกอุปสรรคสีเทาทึม ใช้แนวคิดฮาวทูมาผูกเรื่องราวให้เป็นนิยายเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นด้วยความรักและความปรารถนาดี ตัวละครอย่างฮารุกะเป็นผู้ที่มองเห็นเป้าหมายชัดเจนแต่เธอกลับไม่สามารถทำมันได้สำเร็จ บทที่ฮารุกะพูดเรื่องการส่องแสงจากข้างในให้ทะลุออกมาข้างนอก เรามองว่าฮารุกะก็กำลังส่องแสงให้โยสุเกะอยู่เหมือนกัน เป็นแสงแห่งปัญญาและการตื่นรู้จากภายใน

นิยายเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนประณีต แสดงให้เห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตประจำวันเรียบง่ายแต่ ลงมือทำบางสิ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้ เหมาะกับวัยรุ่นและนักอ่านทุกเพศวัย เราที่เคยลองผิดลองถูกมาหลายอย่าง ยังแอบอิจฉาวัยรุ่นยุคนี้ที่มีหนังสือดีๆ แบบนี้เป็นแนวทางให้ด้วย บางประเด็นอย่างเรื่องเยนอ่านว่าคำขอบคุณ ใช้คำขอบคุณเป็นการให้คุณค่าของสิ่งของต่างๆ แทนที่จะมองว่ามันเป็นราคา ลึกซึ้งมากตรงนี้ ย้อนกลับไปนึกถึงคนญี่ปุ่นที่เขามักจะเอ่ยคำขอบคุณให้กับทุกคน ทุกสิ่งรอบตัว เป็นมุมที่ดีๆ อีกอย่างคือความเกรงใจ ไม่ต้องการให้คนอื่นมาลำบากเพราะพวกเขา แม้สิ่งนั้นจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

หลายคนอาจจะไม่ชอบหนังสือแนว How to เราซึ่งอ่านแนว How to มาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นและตอนทำงาน ก็เบื่อเหมือนกัน แต่เรื่องนี้แตกต่างกัน นักเขียนใส่ How to และข้อคิดมากับตัวละครที่อ้างว่าเป็นคำแนะนำของพ่อ แบบไม่ยัดเยียดและค่อยเป็นค่อยไป ผ่านการขบคิดของตัวละครในเรื่อง อ่านจบแล้วประทับใจมาก  รู้สึกเหมือนมีแสงส่องสว่างจากภายใน คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับวัยรุ่นที่กำลังสับสนเคว้งคว้าง ในช่วงเวลาที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ อยากให้ทั้งวัยรุ่นว้าวุ่นสับสน รวมทั้งผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยกัน ใช้เวลาพูดคุยทำความเข้าใจกับลูกหลานให้มากขึ้น 

 

สั่งซื้อหนังสือในรูปแบบ eBook ได้ที่ Meb Market

  • by นักอ่านหมายเลข ๑
  • | ชวนอ่าน
OTHER POSTS FROM