นิยายญี่ปุ่น รสชาติอาหารจานครอบครัว - เอโกะ ยามากุจิ

หนังสือ “รสชาติอาหารจานครอบครัว” เขียนโดย เอโกะ ยามากุจิ แปลเป็นภาษาไทยโดย พลอยทับทิม ทับทิมทอง เป็นนิยายขนาดสั้นอ่านได้ทุกเพศวัย แม้เรื่องราวจะบอกเล่าเกี่ยวกับอาหารซะส่วนใหญ่แต่ก็มีการแทรกเรื่องราวปมปัญหาของตัวละครต่างๆ ภายในเรื่องเหมือนแขกรับเชิญประจำบทที่มาสร้างสีสันให้กับชีวิตที่เรียบง่ายของคุณป้าเจ้าของร้านอาหารฮาจิเมะทั้งสองคน เอโกะร้อยเรียงเหตุการณ์และปมปัญหาต่างๆ ของตัวละครรับเชิญ กับเมนูอาหารประจำวัน ผสมคลุกเคล้าจนเป็นเนื้อเรื่องได้อย่างเรียบเนียน ใครที่ชอบนิยายขนาดสั้นสายละมุนละไม ไม่คิดมาก ไม่ดราม่าตับพัง ก็น่าจะอ่านนิยายเรื่องนี้ได้อย่างเพลิน ได้ของแถมเป็นเมนูยั่วนำ้ลายกระตุ้นต่อมหิวหลายรายการเลย แต่บางเมนูก็ยังจินตนาการภาพไม่ออกเพราะยังไม่เคยชิมว่ารสชาติจะออกมาเป็นแบบไหนเหมือนกัน เดาว่าอร่อยเชื่อมือคุณป้าอิจิโกะและคุณป้าฟุมิ

 

นิยายจีนแปลเรื่อง รสชาติอาหารจานครอบครัว โดย เอโกะ ยามากุจิ

 

  ชื่อหนังสือ รสชาติอาหารจานครอบครัว  
  ผู้แต่ง เอโกะ ยามากุจิ  
  ผู้แปล พลอยทับทิม ทับทิมทอง  
  พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2564  
  ผู้จัดพิมพ์ Piccolo อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง  
  ประเภท นวนิยายญี่ปุ่น  
  แนว ครอบครัวร่วมสมัย  
  ความยาว 216 หน้า  
  ตัวละครหลัก: อิจิโกะ ฟุมิ  
  ตัวละครสนับสนุน:  คานาเมะ โคเฮ มิฮาระ อาซึสะ บันริ ฟุจิชิโระ มานะ ยามาเทะ โกโต โทมะ ไทระ  
  เรื่องราวเกิดขึ้นที่: ร้านฮาจิมะ ร้านอาหารเล็กๆ บนถนนใหญ่ซึคุดะ  

 

นิยายญี่ปุ่น - รสชาติอาหารจานครอบครัว

 

ร้านฮาจิมะของคุณป้าทั้งสอง

ตามธรรมเนียมญี่ปุ่นแม้เจ้าของร้านอาหารจะอายุมากขนาดไหน อาจถึงรุ่นยาย รุ่นทวด ก็ต้องเรียกว่า “ป้า” เหมือนกันหมด ตัวละครสองตัวหลักอิจิโกะกับฟุมิซึ่งมีความสัมพันธ์กันในฐานะแม่สามีและลูกสะใภ้ จึงกลายเป็น “ป้า” ตามคำเรียกของลูกค้า นอกจากความสัมพันธ์ที่กลมเกลียวกันของคนทั้งคู่แล้ว ยังร่วมมือร่วมใจกันทำงานอย่างแข็งขันเพื่อร้านฮาจิเมะ ซึ่งกลางวันจะเป็นขายอาหารชุด ส่วนกลางคืนจะกลายเป็นร้านอิซากายะร้านเหล้าแบบนั่งดื่มสไตล์ญี่ปุ่น

ทั้งสองทุ่มเททำงานหนักมากตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รวมถึงการรักษาสายสัมพันธ์ที่ดีกับร้านค้าวัตถุดิบในละแวกใกล้เคียง ความอุดหนุนเกื้อกูลจึงกลายเป็นความสัมพันธ์สองทาง ที่ร้านค้าวัตถุดิบก็กลับกลายมาเป็นลูกค้าประจำของร้านฮาจิเมะ

ลูกค้าประจำส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณห้าสิบปีขึ้นไป และชอบมาหลังจากบ่ายโมงไปแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงลูกค้าวัยทำงานที่มากินอาหารในช่วงเวลาพักเที่ยง ลูกค้ารุ่นใหญ่พวกลุงๆ มักจะ ติดใจรสชาติอาหารธรรมดาที่คุ้นลิ้นเหมือนที่เคยกินสมัยเด็ก บางคนก็ชอบกินอาหารง่ายๆ ปรุงสุกเร็วไม่ต้องรอนาน บางคนก็รักสุขภาพชอบอาหารไร้ไขมัน บางคนก็มาเพราะความคุ้นเคยเก่าก่อน

สอนทำอาหารทั้งเรื่อง

หนังสือเล่มนี้ถ้าอ่านตอนกลางคืนอาจจะทำให้ท้องร้องได้ง่ายๆ โชคยังดีที่เอโกะเน้นการบรรยายไปที่วัตถุดิบและขั้นตอนการทำอาหารแต่ละชนิดมากกว่า สำหรับคนขี้เกียจอย่างเราก็เลยอดใจได้ ไม่ต้องลุกขึ้นมาเข้าครัวทำกับข้าวตอนดึก แต่ที่ไม่รอดคือแกงกะหรี่ที่ไม่อร่อย ตามที่บรรยายในเรื่อง ลูกค้าขาประจำต่างก็บ่นถึงกันทุกคน ทำเอาเราอดไม่ได้ต้องไปทำเลียนแบบบ้าง รสชาติน่ะหรือ แน่นอนว่ามันต้องไม่ค่อยอร่อยเหมือนในนิยาย ถ้าทำออกมาอร่อยก็ผิดสูตรแล้วล่ะ

อาหารชุดหลักในร้านเท่าที่อ่านมาจะมีอาหารชุดธรรมดาให้เลือกทั้งหมด 4 ชุด อาหารย่าง ทอดและต้ม  อาหารชุดพิเศษประจำวันอีก 1 ชุด ตอนหลังที่บันริมาช่วยงานก็จะมีอาหารชุดพิเศษประจำวันเพิ่มเป็นสองชุดคือ A กับ B เครื่องเคียงแต่ละวันก็จะมีสองอย่าง ส่วนจานยืนพื้นในแต่ละชุดอาหารที่เหมือนกันทุกวัน ได้แก่ ข้าว ซุปมิโสะ สลัดพร้อมนำ้สลัดเสริฟให้ 3 ชนิดและผักดองฝีมืออิจิโกะ หรือที่มานะตัวละครในเรื่องพูดว่า “ซุปหนึ่ง กับข้าวห้า”  รู้สึกว่าคุณป้าทั้งสองอิจิโกะและฟุมิ ต้องทำงานหนักกันแค่ไหนในการเตรียมอาหารพวกนี้ทุกวัน แถมในตอนเย็นที่เปลี่ยนเป็นร้านอากิซายะ จำหน่ายสุรา ก็ยังทำอาหารที่แตกต่างจากอาหารชุดมื้อกลางวัน ป้าเอาแรงจากไหนมาทำงานกันมากมายขนาดนี้ พลังล้นเหลือจริงๆ

สั่งซื้อหนังสือในรูปแบบ eBook ได้ที่ Meb Market

ทุกตัวละครมีเรื่องราว

เอโกะปั้นตัวละครออกมาละมุนละไม บทสนทนาระหว่างตัวละครเป็นธรรมชาติ ขณะที่เรากำลังก้มหน้าก้มตาอ่านและจินตนาการอาหารชุดแต่ละเมนูที่อิจิโกะและฟุมิต่างช่วยกันทำออกมาเสริฟลูกค้า รู้สึกราวกับว่าได้ยินเสียงตัวละครมาคุยกันอยู่ข้างหู  รวมทั้งการที่ตัวละครต่างช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ร้านอาหารนี้ไม่ใช่แค่เพียงมีรสชาติของครอบครัว แต่การปฏิบัติของเจ้าของร้านและลูกค้า ก็เหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน นับว่าเป็นร้านแห่งชุมชนที่แท้จริง

อิจิโกะ แม่สามีของฟุมิ คุณป้าสายสตรองเผชิญคลื่นพายุในชีวิตถึงสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อสามีเสียชีวิตคุณป้าอิจิโกะกับลูกชายทากาชิก็ตัดสินใจเปลี่ยนร้านอาหารอิตาเลียนเป็นร้านอาหารแนวครอบครัวที่แม้แต่มือสมัครเล่นก็ทำได้ อีกครั้งเมื่อสิบปีก่อนที่ทากาชิลูกชายคนเดียวเสียชีวิต คุณป้าอิจิโกะไม่มีแรงใจจะทำกิจการร้านอาหารฮาจิเมะต่อไปแล้ว แต่ฟุมิลูกสะใภ้กลับยืนยันจะช่วย ร้านฮาจิเมะจึงยืนหยัดต่อมาได้จนปัจจุบัน

ฟุมิ อดีตเคยทำงานห้างสรรพสินค้าใหญ่มาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย แล้วย้ายมาอยู่เมืองซึคุดะเพราะว่าใกล้กับสถานที่ทำงาน รู้จักร้านฮาจิเมะเพราะอยู่ระหว่าวเส้นทางเดินไปโรงอาบนำ้และหอพัก อาบนำ้เสร็จก็เลยแวะกินข้าวก่อนกลับหอพัก ได้รู้จักกับอิจิโกะและทากาชิ ประทับใจอิจิโกะที่เหมือนกับแม่ตัวเองที่จากไป ที่ตัดสินใจแต่งงานกับทากาชิก็เพราะอยากเป็นครอบครัวเดียวกับอิจิโกะ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานมากและกำลัง จะได้เลื่อนเป็นหัวหน้าแผนกจัดซื้อ แต่เมื่อสามีเสียชีวิต แม่สามีถอดใจที่จะทำร้านอาหารฮาจิเมะต่อ ฟุมิก็ลาออกจากงานมาช่วยกิจการของแม่สามี สำหรับฟุมิแล้วร้านฮาจิเมะของอิจิโกะไม่ใช่แค่ร้านอาหารแต่มันคือบ้านที่เธอโหยหามาตลอดชีวิต และที่นั่นมีอิจิโกะที่ทำให้เธอได้รับความอบอุ่นหัวใจ เธอรับหน้าที่ซื้อวัตถุดิบ ประสบการณ์ทำงานเดิมฝ่ายจัดซื้อของห้างสรรพสินค้า ทำให้เธอเป็นคนละเอียดรอบคอบ รู้จักคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสมราคา และยังตัดสินใจได้รวดเร็ว

คานาเอะ ลูกสาวของฟุมิเป็นผู้หญิงทำงานอีกคน รับผิดชอบงานบรรณาธิการหนังสือเล่มในสำนักพิมพ์เล็กๆ ทำงานหนัก มักจะกลับบ้านเวลาสามทุ่มซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร้านปิดลงแล้ว กินอาหารค่ำที่เหลือจากการขายของวัน ไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวมากนัก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สายสัมพันธ์ที่เธอมีต่อแม่และย่าของเธอเจือจางลงเลย

บันริ เพื่อนสมัยเด็กของคานาเอะ ทำงานที่ไหนก็ไม่ทน ไม่เคยทำงานที่ไหนเกินหนึ่งปี เปลี่ยนงานบ่อยและหลากหลายอาชีพ งานสุดท้ายที่ทำคือร้านขายเนื้อย่าง บันริเป็นลูกค้าประจำอายุน้อยที่สุดไม่ชอบกินปลา แต่ชอบกินกุ้ง ปลาหมึก หอยเชลล์และไข่ปลาเมื่ออิจิโกะตกบันไดและเดินเหินไม่ถนัด และเพราะคำแนะนำของโคเฮเจ้าของร้านขายเหล้า บันริจึงถูกฟุมิมัดมือชกให้มาทำงานพิเศษให้กับร้านฮาจิเมะ เขาทำงานได้ว่องไวและคล่องแคล่วไม่ใช่คนที่จับจดและเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างที่ฟุมิคิดแต่แรก และคุณสมบัติสำคัญของเขาคือมีประสาทในการรับรสชาติที่ไวมาก

โคเฮ เจ้าของร้านเหล้า ขายเหล้าให้กับร้านฮาจิเมะและเป็นลูกค้าขาประจำในตอนเย็น เพื่อมานั่งดื่มเหล้าของตัวเองกับลูกค้าขาประจำที่รู้จักกันดีคนอื่นๆ เป็นคนเสนอไอเดียให้เอาบันริมาช่วยงานพิเศษที่ร้านช่วงที่อิจิโกะตกบันไดและเจ็บข้อเท้า

มิฮาระ เป็นลูกค้าขาประจำของร้านมาได้สิบกว่าปีแล้ว ภรรยาของเขาเสียชีวิตไป เขาจึงขายบ้าน และย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมที่ซึคุดะ ผู้คนรำ่ลือกันว่าเขาอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมสุดหรูที่สร้างใหม่ แต่เขาชอบแต่งตัวด้วยชุดลำลองมากินอาหารที่ร้านฮาจิเมะทุกวัน เป็นคนรักสุขภาพมักจะเลือกกินนำ้สลัดแบบไร้ไขมัน และเกลียดมะเขือเทศ

อาซึสะ เป็นลูกค้าขาประจำมื้อกลางวันร้านฮาจิเมะ ชอบอ่านหนังสือและติดตามข่าวสารสถานการณ์ รอบรู้หลายเรื่อง มักจะชอบมานั่งอ่านหนังสือไปด้วยขณะที่รออาหาร กลางวันไม่แต่งหน้าและสวมแว่นตาหนา กลางคืนทำงานเป็นผู้ช่วยมาม่าซังที่คลับซาบริน่า

ยามาเทะ เป็นเจ้าของร้าน “อุโอมาสะ” ร้านขายปลาที่อยู่ใกล้ๆ เป็นขาประจำของร้านมาห้าสิบปีแล้ว ตั้งแต่ที่ร้านนี้ยังเป็นร้านอาหารฝรั่ง ถึงที่ร้านจะขายปลาแต่เขาชอบกินไข่ที่สุด ทุกครั้งที่มาร้านฮาจิเมะ จะต้องสั่งไข่คน หรือไม่ก็ข้าวห่อไข่ ช่วงกลางคืนถ้ามาคนเดียวเขาจะรีบดื่มแล้วกลับไป แต่ถ้ามากับเพื่อนอย่างโกโตก็จะสั่งของกินเล็กน้อย

โกโต อดีตเคยเป็นตำรวจ ต้องออกเดินตรวจพื้นที่อยู่ตลอดเวลา พอเกษียณอายุแล้วก็ไม่ชอบออกจากบ้านไปไหน ลูกสาวคนเดียวแต่งงานแยกบ้านและย้ายไปอยู่โอซาก้า เขาชอบกินอาหารที่ไม่ต้องใช้เวลารอนาน ภรรยาทำอาหารช้าก็จะหงุดหงิดรำคาญใจ พอภรรยาเสียชีวิตไปแล้วเขาอยู่ตัวคนเดียว ก็เลยกินอาหารสำเร็จรูปง่ายๆ หรือไม่ก็มากินอาหารที่ร้านฮาจิเมะ เลือกรายการอาหารที่ไม่ต้องรอนาน ประเภทที่ทำไว้แล้วพร้อมเสริฟได้ทันที

ฟูจิชิโระ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทไอที ลูกค้าไฮโซที่มากินอาหารร้านฮาจิเมะสามวันต่อสัปดาห์ เพราะติดใจในรสชาติอาหารที่แสนธรรมดาเหมือนรสมือแม่กับข้าวสมัยที่เขายังเด็ก กลายเป็นดราม่าที่ทำให้ภรรยาเข้าใจผิดคิดว่าเขาแอบพบปะผู้หญิงอื่น สุดท้ายก็เคลียร์กันได้ด้วยแกงกะหรี่ที่ไม่ค่อยอร่อยแต่ช่วยเยียวยาหัวใจจากร้านฮาจิเมะ

มานะ นางแบบสาวที่แต่งงานกับชายสูงวัยเจ้าของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ อุตส่าห์ไปฝึกฝนการทำอาหารทั้งอาหารยุโรปและอาหารชั้นสูงของเกียวโต แต่สามีกลับไปนั่งกินอาหารรสชาติบ้านๆ ธรรมดาซะนี่ เป็นใครก็ต้องหวาดระแวงว่าสามีจะไปมีกิ๊กกั๊กอะไรกับใครที่ไหน จนต้องจ้างนักสืบมาตามสืบแล้วก็สวมรอยมาเป็นลูกค้านั่งกินอาหารในร้านด้วยเช่นกัน

โทมะ บล็อกเกอร์หนุ่มชื่อดัง เขียนอะไรก็มีคนตามอ่านมากมาย ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของหนุ่มสาวยุคใหม่ เคยมากินอาหารร้านฮาจิเมะทุกรายการแล้วเอาไปเขียนในบล็อกด้วยความประทับใจ ทำเอาสาวๆ ที่ติดตามอ่านบล็อกของเขา ตามมากินร้านฮาจิเมะกันถล่มทลาย เบียดขาประจำให้ไม่กล้าเข้าร้านไป เป็นคนที่คานาเมะตกหลุมรักและคบหากันพักหนึ่ง แต่ด้วยบุคลิกและท่าทางสบายๆ ของเขาทำให้ผู้หญิงเข้ามาหามากมาย และเขาก็ไม่ตกลงใจเลือกคบคานาเมะเพียงคนเดียว สุดท้ายก็ต้องเลิกรากับคานาเมะไป

คุชิดะ เจ้าของร้านขายไก่ปิ้ง ทำกิจการนี้ร่วมกับภรรยามายาวนานมหลายสิบปี สมัยก่อนขายมื้อกลางวันและมื้อเย็นด้วย แต่เมื่อภรรยาเจ็บป่วยจึงเปิดขายช่วงเย็นอย่างเดียว เขากำลังมีปัญหากับลูกชายซึ่งเรียนจบและฝึกงานมากับภัตตาคารอาหารฝรั่ง ลูกชายของเขาว่าธุรกิจขายไก่ปิ้งใช้แรงมากแต่ไม่ทำรายได้มากนัก เขาต้องการเปลี่ยนร้านขายไก่ปิ้งให้เป็นร้านอาหารฝรั่ง เหตุผลอีกอย่างคือเขาคบหากับผู้หญิงที่มีสถานะและหน้าที่การงานดี เขาต้องการอวดแฟนให้มีความภาคภูมิใจ

ไทระ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มาร้านฮาจิเมะ ที่มีความหลังสมัยยังเป็นวัยรุ่นเคยได้รับความช่วยเหลือจากโคโซสามีของอิจิโกะ หลังจากเขาประสบความสำเร็จในชีวิตและถึงจุดที่ประสบปัญหาครั้งใหญ่ เขานึกถึงสตูว์เนื้อที่โคโซเคยให้เขากิน และมาที่ร้านฮาจิเมะอีกครั้ง เพื่อจะขอบคุณเจ้าของร้านและอยากกินสตูว์เนื้อรสชาติเดิมนั้นอีกครั้ง

เหตุการณ์ธรรมดาแต่ปัญหามีอยู่ทุกที่

ในหนังสือมีแค่ห้าบทแต่ก็เป็นห้าบทที่อบอวลไปด้วยความผูกพันและ มิตรภาพที่ดีระหว่างเจ้าของร้านกับลูกค้าทั้งขาประจำและลูกค้าหน้าใหม่ มีพายุเบาๆ หลายระลอกทั้งปัญหาความเข้าใจผิดของสามี-ภรรยา ปัญหาสุขภาพของอิจิโกะ ปัญหาของอาซึสะที่ถูกคนโกงค่าเครื่องดื่มและอาหารในคลับ ปัญหาการหายตัวไปของลูกค้าคนหนึ่ง ปัญหาเรื่องการปิดกิจการร้านขายวัตถุดิบ ปัญหาภายในของกิจการร้านขายไก่ปิ้งที่ลูกชายคนเดียวต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นร้านอาหารอิตาเลียน ปัญหาความรักของคานาเอะกับผู้ชายที่รักใครไม่เป็น ปัญหาเรื่องรสชาติของสตูว์เนื้อในตำนาน ปมปัญหาทั้งหมดนี้สามารถคลี่คลายได้ด้วยวิธีการที่นุ่มนวลและเข้าอกเข้าใจกัน

เอโกะถ่ายทอดเรื่องราวความตั้งใจและความพิถีพิถันของเจ้าของร้านทั้งสองในการทำอาหารให้กับลูกค้า รู้จักลูกค้าว่าชอบและไม่ชอบอะไร สามารถปรับเปลี่ยนเมนูได้ตามความต้องการของลูกค้า ความยืดหยุ่นและการเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ที่ตัวละครมีต่อกัน รายการอาหารในแต่ละวันถูกร้อยเรียงไปพร้อมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเนื้อเรื่อง หลายครั้งที่ปัญหาและอุปสรรคที่ตัวละครจะต้องเผชิญ ล้วนถูกแก้ไขเมื่อลิ้นรับรสชาติที่เอร็ดอร่อย ท้องอิ่มสมองก็แล่น

ภาพรวมทั้งหมด

เอโกะกำลังส่งสารสำคัญให้เราได้เห็นวัฒนธรรมในการทำธุรกิจของชาวญี่ปุ่น เริ่มจากธุรกิจในครอบครัวและการสืบทอดธุรกิจรุ่นต่อรุ่น ก็ต้องพึ่งพาอาศัยคนในพื้นที่ สนับสนุนกิจการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน สลับบทบาทของการเป็นเจ้าของร้านและลูกค้า เราเป็นลูกค้าของเขา เขาเป็นลูกค้าของเรา ความซื่อตรงต่อลูกค้า เป็นรากฐานที่สำคัญทำให้ธุรกิจสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยืนยาว เหมือนดั่งร้านอาหารเล็กๆ อย่างร้านฮาจิเมะที่สืบทอดมารุ่นสู่รุ่น แม้ว่าจะเปลี่ยนรูปแบบแปลงโฉมไปมากมายจากร้านซูชิ เป็นร้านอาหารฝรั่ง จากร้านอาหารฝรั่งมาเป็นร้านอาหารสไตล์ครอบครัว แต่อุดมการณ์พื้นฐานในการเปิดร้านอาหาร ที่ต้องการให้ลูกค้ามีความสุขกับอาหารรสอร่อยยังคงเดิม ทำให้ร้านฮาจิเมะร้านนี้จึงไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย

อ่านนิยายเรื่อง รสชาติอาหารจานครอบครัว จบลงแล้ว ก็คิดถึงซีรีส์ญี่ปุ่นที่เคยดูชื่อเรื่อง Midnight Restaurant ร้านอาหารเที่ยงคืน ร้านอาหารฮาจิเมะของอิจิโกะและฟุมิ คุณป้าเจ้าของร้านทั้งสองคนนี้ ก็เหมือนกับสถานที่เยียวยาหัวใจให้กับผู้คน กินแล้วนึกถึงรสชาติคุ้นลิ้นและห้วงเวลาที่มีความสุขในอดีต 

แม้ในความเป็นจริง ไม่มีใครสามารถย้อนเวลาได้ แต่ก็สามารถย้อนห้วงความคิดคำนึง ไปยังความทรงจำในช่วงเวลาอันแสนสุขเหล่านั้น คุณป้าเจ้าของร้านฮาจิมะมักบอกว่าพวกเธอเป็นมือสมัครเล่น อาหารที่ปรุงก็เป็นของธรรมดาพื้นๆ ไม่ใช่จานที่ปรุงจากวัตถุดิบล้ำค่าโดยเชฟอับดับหนึ่งในโลก แต่คุณป้าทั้งสองได้สร้างร้านเล็กๆ ที่มีบรรยากาศอันอบอุ่น 

ไทระนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้สารภาพตอนท้ายเรื่องว่า ร้านฮาจิเมะทั้งในอดีตที่เคยเป็นร้านอาหารฝรั่ง และปัจจุบันที่เป็นร้านอาหารสไตล์ครอบครัว ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย ลูกค้าทุกคนที่เดินออกจากร้านฮาจิเมะจากไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า อาหารร้านฮาจิเมะจึงไม่เพียงทำให้ลูกค้าอิ่มท้องแต่ถ่ายทอดความอบอุ่นไปถึงหัวใจ

สั่งซื้อหนังสือในรูปแบบ eBook ได้ที่ Meb Market

  • by นักอ่านหมายเลข ๑
  • | ชวนอ่าน
OTHER POSTS FROM