ทีวีซีรีส์

ซีรีส์จีน สตรีหาญฉางเกอ | The Long Ballad | 电视剧长歌行

ซีรีส์จีน เรื่อง สตรีหาญฉางเกอ | The Long Ballade | 电视剧长歌行

ดัดแปลงจากบทประพันธ์: ฉางเกอสิง | Chang Ge Xing | 长歌行 | เขียนโดย เซี่ยต๋า | Xia Da | 夏达

แนว: ดราม่าอิงประวัติศาสตร์สมัยจักรพรรดิถังไท่จง(หลี่ซื่อหมิ่น) ราชวงศ์ถัง

ความยาว: 49 ตอน

นักแสดงนำ: ตี๋ลี่เร่อปา 迪丽热巴, อู๋เหล่ย 吴磊 จ้าวลู่ซือ 赵露思, หลิงอวี่หนิง 刘宇宁, ฟางอี้หลุน 方逸伦

นักแสดงสมทบ: 

ตัวละครในเรื่อง: หลี่ฉางเกอ (ตี๋ลี่เร่อปา 迪丽热巴), อาซือเล่อสุ่น (อู๋เหล่ย 吴磊), องค์หญิงเล่อเหยียน (จ้าวลู่ซือ 赵露思), ฮ่าวตู (หลิงอวี่หนิง 刘宇宁), เว่ยซูอวี้ (ฟางอี้หลุน 方逸伦)

ตัวละครหลัก: หลี่ฉางเกอ อาซือเล่อสุ่น 

ตัวละครรอง: องค์หญิงเล่อเสียน ตู้โฮ่วตู

เขียนบท: Chang Jiang, Pei Yu Fei

กำกับการแสดง: Chu Yui Bun

ช่องทางเผยแพร่:China Huace TV VIKI TencentVideo

ออกอากาศวันแรก: 2021 - 03 - 31

ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับรางวัล Golden Angel Award TV Series จากเวทีประกวด Chinese American TV Festival Golden Angel Awards ปี 2021

เรื่องย่อ

“สตรีหาญฉางเกอ | The Long Ballad | 电视剧长歌行” เป็นซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ยุคจักรพรรดิถังไท่จง ดัดแปลงมาจากผลงานของนักวาดมังงะชื่อดัง  เซี่ยต๋า (夏达) เรื่อง ฉางเกอสิง (长歌行)

ปีสุดท้ายของรัชศกถังอู่เต๋อ รัชสมัยถังเกาจู่ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก เมื่อ “หลี่ซื่อหมิ่น | 李世民” (รับบทโดย เกิ่งเล่อ 耿乐)   พระโอรสพระองค์รองของจักรพรรดิถังเกาจู่ สังหารองค์รัชทายาท “หลี่เจี้ยนเฉิง” และพระอนุชา “หลี่หยวนจี้” แล้วได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทพระองค์ใหม่

องค์หญิง "หลี่ฉางเกอ"(รับบทโดย ตี๋ลี่เร่อปา 迪丽热巴)  ธิดาของอดีตรัชทายาท “หลี่เจี้ยนเฉิง" รอดชีวิตจากการสังหารล้างตำหนักบูรพาในครั้งนั้น  ต้องหลบหนีให้พ้นการจับกุมจากทางราชสำนัก ที่ส่งฮ่าวตู (รับบทโดยหลิงอวี่หนิง 刘宇宁) ออกมาตามล่า เพื่อการเอาตัวรอดจึงปลอมเป็นชาย ปิดบังฐานะ ใช้ชื่อว่า “หลี่ฉีซือ | 李十四” ด้วยความบังเอิญระหว่างการหลบหนีก็ได้รับความช่วยเหลือจาก “อาสุ่น” (รับบทโดย อู๋เหล่ย 吴磊)  ในฐานะพ่อค้าที่เดินทางไปทำกิจการค้าขายต่างเมือง ซึ่งเขาปิดบังตัวตนที่แท้จริง ในการลอบเข้ามาสังเกตสถานการณ์ในเมืองฉางอันพักใหญ่ เตรียมวางแผนจะรุกรานแผ่นดินต้าถัง

หลี่ฉางเกอต้องการรวบรวมกองกำลังทหารมาช่วยในการก่อการกบฎและทวงคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัว แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายเพราะถูกทรยศหักหลังจากคนที่ไว้ใจ ต้องหนีจากเมืองหนึ่งไปเมืองหนึ่งด้วยความช่วยเหลือของอาโต้ว เด็กชายเร่ร่อนที่หลี่ฉางเกอรับเป็นลูกศิษย์ ระหว่างการเดินทางไกลหลี่ฉางเกอได้เห็นความลำบากยากเข็ญของผู้คนที่เป็นเหยื่อสงคราม แต่ที่เมืองซั่วโจวเมืองชายแดนติดชนเผ่าอาซือเล่อเพียงแค่แม่น้ำกั้นนั้น ความเป็นอยู่ของผู้คนกลับดีมาก ไม่ได้รับภัยอันตรายจากสงครามใดๆ กงซุนเหิง เจ้าเมืองซั่วโจว เป็นผู้มีคุณธรรมและคิดถึงประชาชนมาก่อน หลี่ฉางเกอได้เรียนรู้และศรัทธาต่อกงซุนเหิง เจ้าเมืองซั่วโจวคนนี้ ความคิดที่จะก่อกบฎเพื่อไปรบกับอารองหลี่ซื่อหมิ่นก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นการต่อสู้เพื่อป้องกันประชาชนชาวต้าถังให้ปลอดภัยจากการรุกรานของศัตรู เอาชนะกองทัพหมีของชนเผ่าอาซือเล่อได้ แต่สิ่งที่กงซุนเหิงกลัวก็คือกองกำลังอินทรี ซึ่งมีความแข็งแกร่งที่สุดของชนเผ่าอาซือเล่อ และผู้นำกองกำลังอินทรีนั้นได้รับสมญานามว่า "เทพสงคราม ไม่มีวันพ่าย"

ครั้นประเมินกำลังพลแล้ว กงซุนเหิงก็หนักใจเมื่อรู้ว่าหากทัพอินทรีมาถึง จะไม่สามารถป้องกันเมืองและประชาชนเอาไว้ได้ และเขาไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียและย่อยยับ จึงให้คนนำสาส์นไปขอต่อรองแลกเปลี่ยนกับอาซือเล่อสุ่น ผู้นำกองกำลังอินทรี โดยยอมเอาชีวิตและศีรษะของตนเป็นเครื่องบรรณาการแก่เจี๋ยลี่เค่อหานแห่งเผ่าอาซือเล่อแลกกับความปลอดภัยของชาวเมืองทั้งหมด

หลังเสร็จพิธีเคารพศพ หลี่ฉางเกอ ยกกล่องบรรณาการเพื่อไปมอบเมืองให้กับผู้นำทัพอินทรีที่นอกประตูเมือง และที่นั่นเองหลี่ฉางเกอกลับต้องเผชิญหน้ากับสหายเก่า ที่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาในฐานะ "อาซือเล่อสุ่น" ผู้นำกองกำลังอินทรี บุตรชายบุญธรรมของ “เจี๋ยลี่เค่อหาน” จากเผ่าอาซือเล่อแห่งทุ่งหญ้า เขายื่นข้อเสนอให้ฉางเกอไปเป็นทาสรับใช้ของเขา แลกกับการที่ชาวเมืองทั้งหมดจะได้รับความปลอดภัยและไม่ถูกรุกราน หลังจากนั้นเส้นทางชีวิตของฉางเกอจึงได้เริ่มการผจญภัยครั้งใหม่ และได้เปลี่ยนแปลงจากเป้าหมายเดิมไปโดยสิ้นเชิง

นักแสดงหลัก

ตี๋ลี่เร่อปา

ตี๋ลี่เร่อปา 迪丽热巴 สวมบทบาท "หลี่ฉางเกอ" โชคชะตาพลิกผันให้ต้องหลบหนีออกจากบ้าน เดินทางอย่างไร้จุดหมาย

เรื่องนี้ตี๋ลี่เร่อปาสวยมากมาย ฝีมือการแสดงล้ำเลิศทั้งบทบู๊แอคชันและบทซาบซึ้งโรแมนติก ชอบตอนปลอมตัวเป็นผู้ชาย หล่อมากสาวรักสาวหลง ข่มพระเอกมิดชิดเลย นี่ถ้าไม่ให้พระเอกรู้ว่าเป็นหญิงก็น่าจะเขม่นกันไปอีกพักใหญ่เลยนะ ตี๋ลี่เร่อปาถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร "หลี่ฉางเกอ" ออกมาได้ดีมาก เศร้า สะเทือนใจ เจ็บแค้น เป็นตัวละครทรหดอดทน โดนธนูปักไปสองรอบ มีดแทงซ้ำ แล้วยังจะถูกฟันอีกหลายแผล

หลี่ฉางเกอนอกจากจะใจเด็ดมากแล้ว ยังอึดถึกทนมาก

ก็เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามการรบพุ่งทั้งเรื่องนี่เนอะ ฉากบาดเจ็บเยอะกว่าฉากกินข้าวกันซะอีก ตัวละคร "หลี่ฉางเกอ" มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นไปตามทิศทางของเรื่องจากจุดเริ่มต้นไปจนจุดจบ ปมความขัดแย้งของตัวละครทั้งภายในและภายนอก ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจและการกระทำของตัวละคร เป็นเหตุเป็นผลที่คนดูยอมรับได้ ตี๋ลี่เร่อปา กับบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมในเรื่องนี้ ทำให้เธอได้รับรางวัล Outstanding Young Actress จากเวทีประกวด Chinese American TV Festival Golden Angel Awards ในปี 2021

ฉากสะเทือนจิตใจอย่างรุนแรงมีมาต่อเนื่อง ก็คือตอนที่อาโต้ว ลูกศิษย์ตัวน้อยของหลี่ฉางเกอ ถูกกองกำลังหมี เผ่าอาซือเล่อจับตัวได้ เพื่อบังคับให้หลี่ฉางเกอเปิดประตูเมือง อาโต้วจึงถูกนำมาทรมานที่หน้าประตูเมืองจนตาย

ตอนที่หลี่ฉางเกอรู้ว่าเท่อฉินของทัพอิงซือก็คือ "อาสุ่น" ที่ หลี่ฉางเกอรู้จักในฐานะสหายและผู้ช่วยเหลือ อารมณ์ในขณะนั้นมีทั้งความสับสน มึนงง เจ็บปวดใจเหมือนถูกทรยศหักหลังเป็นครั้งที่สาม (ครั้งแรกจากหลี่ซื่อหมิ่นที่สังหารบิดา ครั้งที่สอง เว่ยซูอวี้ที่ร่วมมือกับฮ่าวตูในการตามจับกุมหลี่ฉางเกอ แล้วเป็นคนยิงธนูใส่นางเอง)

ฉากนี้หลี่ฉางเกอสะกดอารมณ์อย่างมาก ร้องไห้ก็ไม่ได้ ต้องกล้ำกลืนความขมขื่นเจ็บปวดใจ

อู๋เหล่ย 吴磊

อู๋เหล่ย 吴磊 สวมบทบาท "อาซือเล่อสุ่น" บุตรบุญธรรมของ อาซือเล่อข่าน เทจินของทัพอินทรี ฉายาเทพสงคราม ไม่มีวันพ่ายแพ้

อู๋เหล่ย 吴磊 กับบทบาทเท่อฉิน กองกำลังอินทรี เทพสงครามของเผ่าอาซือเล่อ ชุดอลังการมาก เดินไปมาในเผ่ารัศมีของชุดก็เด่นข่มแม้กระทั่งเค่อหานน้อยมิดธรณีไปเลย ฝ่ายคอสตูมดูจงใจมากเกินไปหน่อยหรือเปล่าไม่รู้ แต่ดูแล้วชอบมากเลย ออร่าพระเอกเปล่งประกายเรืองรองมาก หน้ากากเหล็กก็ทำให้ดูมีเสน่ห์น่าค้นหามาก สังเกตดาบที่ใช้ด้ามจับยังเป็นจงอยปากและหัวของนกอินทรี ทีมงานใส่ใจกับรายละเอียดมาก

อาซือเล่อสุ่น เป็นบุตรบุญธรรมของเจี๋ยลี่เค่อหานเผ่าอาซือเล่อ เขาเป็นลูกรักของพ่อแต่ถูกเลี้ยงดูเติบโตมาคู่กับ เค่อหานน้อยลูกชายของเค่อหานคนก่อน และเป็นหลานชายของหยานลี่เค่อหานปัจจุบันแห่งเผ่าอาซือเล่อ จึงถูกวางตัวไว้ให้เป็นคู่แข่งขันกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อบุญธรรมของเขารักเขามาก ความรักของพ่อที่แสดงออกคือการผลักดันให้ลูกแข็งแกร่ง มีความเป็นผู้นำ ปกครองคนหมู่มากได้ เข้มแข็งและเด็ดขาด ไร้เมตตาปรานี ไม่มีจุดอ่อนไหวให้ถูกศัตรูโจมตี  เขาถูกแยกจากแม่ตั้งแต่เด็กแต่ก็มีความกตัญญูรู้คุณมาก ยิ่งเขาไม่ใกล้ชิดกับแม่ แม่ของเขาก็จะยิ่งอยู่อย่างสงบสุขและปลอดภัย

ฉากที่แม่บุญธรรมของอาสุ่นปลิดชีพตัวเองเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของอาสุ่น สะเทือนใจมาก

ความรักที่เขามีต่อพ่อบุญธรรมของเจี๋ยลี่เค่อหาน เผ่าอาซือเล่อ ก็คือปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่างโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่คิดทรยศหักหลัง หากเขาไม่เห็นด้วยในบางอย่าง เขาจะมีวิธีเจรจา ชี้เหตุผลให้เห็นเป็นประจักษ์ นับว่าเป็นคนเจ้าแผนการณ์และฉลาดในการวางกลยุทธ์การทำศึกเป็นอย่างมาก สิ่งที่เขาคิดเหมือนกับฉางเกอคือ เขาเองไม่ต้องการสงคราม ต้องการให้ผู้คนในเผ่าของเขาปลอดภัยและอยู่อย่างสงบสุข

ทักษะการเจรจาสุดยอดมาก ทำให้คนรอดตายก็ได้

หลิวอวี่หนิง

หลิวอวี่หนิง 刘宇宁 สวมบทบาท "ฮ่าวตู" มือปราบที่เหี้ยมโหดเย็นชา เคร่งครัด ทำงานตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย ปราศจากข้อสงสัย

หลิวอวี่หนิง ในบทบาทของฮ่าวตู มือปราบหน้านิ่ง ที่มีไอเย็นเยียบเหมือนน้ำแข็งแผ่พุ่งออกมารอบด้าน เป็นบทบาทที่โดดเด่นของเขา ทำให้คนดูประทับใจมาก เหมือนคนไม่มีอารมณ์ความรู้สึก ไม่มีความอ่อนไหวใดๆ คอสตูมก็ดูเข้ากันได้ดี เสื้อผ้าที่สวมใส่มีสีโทนเข้ม น้ำเงินดำ เหมาะมากกับบทบาทที่เขาสวมอยู่ ในซีรีส์เรื่อง สตรีหาญเฉิงเกอ | The Long Ballad | 电视剧长歌行 เรื่องนี้เขาพากย์เสียงของตัวเอง แล้วยังร้องเพลงประกอบในซีรีส์ปิดท้ายตอน คู่กับจ้าวลู่ซือ อีกด้วย

ฮ่าวตู เป็นบุตรบุญธรรมของ ตู้หรูฮุ่ย ขุนนางหนึ่งในสามที่ปรึกษาของจักรพรรดิถังไท่จง (หลี่ซื่อหมิ่น) เขาถูกฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก เขาเคารพพ่อบุญธรรมมาก การตอบแทนความกตัญญูของบิดาบุญธรรมจึงอยู่ในรูปแบบของการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำอย่างเคร่งครัดและมีวินัย พ่อสั่งให้ไปตามล่า ตามสังหารหลี่ฉางเกอ ฮ่าวตูก็ปฏิบัติตามคำสั่งของพ่ออย่างเคร่งครัด ไม่ไว้เห็นแก่หน้าของคนอื่น หน้าที่มาก่อนเรื่องของหัวใจ

ตอนแรกที่ดูก็ไม่ค่อยชอบตัวละครนี้ โหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนได้แบบไม่กะพริบตา น่ากลัวเกินไปแล้ว แต่พอดูไปเรื่อยๆ บนเส้นทางของการตามล่าหลี่ฉางเกอ ตัวละครฮ่าวตูก็มีการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้พบเห็น มีพัฒนาการภายในจิตใจ เริ่มมีความอ่อนโยนมากขึ้น เห็นใจคนอื่นมากขึ้น เริ่มคิดหาคำตอบด้วยเหตุและผลมากขึ้น เริ่มมีความคิดเป็นของตนเองและตั้งคำถามกับคำสั่งที่ดูเหมือนไม่ชอบธรรมของบิดาบุญธรรม เรียนรู้ที่จะมีความรักและเสียสละให้คนที่ตัวเองรัก

ความรักของเขาที่มีต่อองค์หญิงเล่อเยียนเป็นความรักแบบเทิดทูนบูชา ไม่อาจเอื้อมหมายปอง ล่วงรู้ความในใจขององค์หญิงและยินดีที่จะเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุข แต่ก็พร้อมที่จะปกป้องคนรักของตัวเองอย่างสุดความสามารถ ฉากที่ยอมตายแต่ไม่ยอมแพ้เพื่อไม่ให้องค์หญิงเล่อเหยียนต้องไปอภิเษกกับเค่อหานน้อย และใช้ชีวิตอยู่ในเผ่าอาซือเล่อในดินแดนทุ่งหญ้า ซาบซึ้งใจมาก

องค์หญิงเล่อเยียนสายตาสั้นมาทั้งเรื่อง ต้องหันมามองดูฮ่าวตูใหม่แล้วนะ…ณ จุดนี้ ตำแหน่งราชบุตรเขยก็มาเทียบเลยจ้า คนดูลุ้นกันหนักมากในครึ่งเรื่องหลังกับคู่รองพระ-นางคู่นี้ ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องก็รู้ คนดูก็รู้ มีแต่องค์หญิงเล่อเยียนที่ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย

จ้าวลู่ซือ

จ้าวลู่ซือ 赵露思 สวมบทบาท หลี่เล่อเยียน ธิดาของ หลี่ซื่อหมิ่น เติบโตมาพร้อมกับหลี่ฉางเกอ รักกันเหมือนพี่น้อง

จ้าวลู่ซือแสดงบทบาทขององค์หญิงที่เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ ไม่มีปากไม่มีเสียง แต่มีน้ำตาเกลื่อนกลาด ฉีกบทบาทจากเรื่อง ข้านี่แหละองค์หญิงสาม | The Romance of Tiger and Rose ได้อย่างชัดเจนทีเดียว เรื่องนี้จ้าวลู่ซือร้องไห้เก่งมาก คอสตูมจัดเสื้อผ้าองค์หญิงมาแบบไม่ฟุ่มเฟือยหรูหรา แต่ก็ดูดีมีฐานะ สมเป็นกุลสตรีชั้นสูง เรื่องนี้จ้าวลู่ซือได้รับรางวัล Asian Star Award จากเวทีประกวด 16th Seoul International Drama Awards ปี 2021

หลี่เล่อเยียน องค์หญิงขี้อายและขี้แยที่สุด เอะอะอะไรก็ร้องไห้ราวกับน้ำตาพร้อมหลั่งได้ตลอด ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าเอ่ยปากพูดความคิดในใจของตัวเอง และไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง เป็นลูกที่เชื่อฟังว่านอนสอนง่าย แต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากบิดา หลี่ซื่อหมิ่นชอบคนที่มีความคิดเห็นขัดแย้งหรือมีความคิดเห็นที่แตกต่างในมุมมองอื่น จึงมักชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนกับหลี่ฉางเกอมากกว่าลูกสาวของตัวเอง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์พลิกผันโชคชะตาทำให้ถูกจับตัวไป บังเอิญไปตกอยู่ท่ามกลางสงครามพอดี ต้องระเหเร่ร่อนเป็นผู้อพยพ ถูกขโมยเงินไปหมด ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงชีพตัวเอง ทำให้ได้รู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของสามัญชนธรรมดา และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนแปลง ทำให้ตัวละครหลี่เล่อเหยียนมีความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการ กล้าที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในความคิด กล้าที่จะปกป้องคนอื่น กล้าที่จะลงโทษคนอื่น กล้าแสดงความรู้สึก เสียใจ เจ็บปวด โกรธเคือง และกล้าแสดงความรัก

ฟางอี้หลุน

ฟางอี้หลุน 方逸伦 สวมบทบาทเป็น เว่ยโซยู่ เพื่อปกป้องครอบครัวเลยยอมแลกที่จะทรยศความไว้วางใจทั้งหมดของหลี่ฉางเกอ

ฟางอี้หลุน รับบทบาทเว่ยซูอวี้ มีหน้าที่เป็นตัวแทนจักรพรรดิในการไปเจรจากับเมืองและแว่นแคว้นต่างๆ เป็นหูเป็นตาให้กับจักรพรรดิ บทบาทของเขาจึงมีอยู่ตลอดเรื่อง และมักจะต้องบังเอิญได้พบกับหลี่ฉางเกอในสถานที่ต่างๆ ที่มีศึกสงครามและความวุ่นวาย เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเขาเป็นสีอ่อนดูแล้วสบายตา ส่งให้บุคลิกของตัวละครในเรื่องดูเป็นคนที่น่าไว้วางใจและอบอุ่น น่าคบหา เวลาปรากฏตัวขึ้นในฉาก พร้อมนักแสดงคนอื่นก็ไม่ถูกข่มจนกลืนหายไปกับฉากหลัง จากการแสดงที่สมบทบาทของเขาในซีรีส์ The Long Ballad นี้ ส่งผลให้เขาได้รับรางวัล Best New Actor ในเวทีประกวด Chinese American TV Festival Golden Angel Awards ปี 2021

เว่ยซูอวี้บุตรชายของเว่ยเจิง ขุนนางที่หนึ่งในสามที่ปรึกษาของจักรพรรดิถังไท่จง (หลี่ซื่อหมิ่น) ในช่วงแรกบิดาของเขาปฏิเสธการทำงานเป็นที่ปรึกษาของหลี่ซื่อหมิ่น นั่นทำให้เว่ยซูอวี้ซึ่งเติบโตมากับองค์หญิงทั้งสองหลี่ฉางเกอและหลี่เล่อเยียน มีความหวาดกลัวในภัยอันตรายที่จะมาถึงครอบครัว ยิ่งเมื่อฮ่าวตูข่มขู่และกดดันเขาโดยกล่าวอ้างถึงมารดาและพี่น้องของเขาขึ้นมา เว่ยซูอวี้จึงถูกฮ่าวตูบังคับให้ร่วมมือในการตามจับกุมหลี่ฉางเกอ แล้วด้วยความที่เขาต้องการปกป้องหลี่ฉางเกอจึงเป็นฝ่ายชิงลงมือยิงธนูก่อนฮ่าวตู แม้ฮ่าวตูจะรู้ทันความคิดของเขา แต่เมื่อเว่ยซูอวี้ไม่ยอมรับ เขาก็ได้แต่ปล่อยไป

การยกครอบครัวมาอ้างเพื่อข่มขู่ ยุติลงไปเมื่อพ่อของเขาเว่ยเจิง ตกลงรับเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ให้กับหลี่ซื่อหมิ่น เว่ยซูอวี้จึงสามารถสมคบคิดกับองค์หญิงหลี่เล่อเยียน ในการแอบช่วยเหลือหลี่ฉางเกอ ด้วยการขัดขวางฮ่าวตู เว่ยซูอวี้มีจิตใจรักใคร่หลี่ฉางเกอ ชอบตัวละครเว่ยซูอวี้ ที่ดูเหมือนมีบุคลิกที่อบอุ่น อ่อนโยน ซื่อตรง มีวาทศิลป์ดีเยี่ยม มีลิ้นของนักการทูต ลึกซึ้งและสุขุม ฉลาดแต่ไม่โกง ไม่ใช่คนเด็ดขาด มีลังเลบ้าง แต่ในเรื่องของความรัก แม้เขาจะรับรู้ความรู้สึกของหลี่เล่อเยียน กลับไม่ลังเลที่จะปฏิเสธออกไปถึงสองครั้ง นับว่ามีจิตใจเด็ดเดี่ยวมาก  เป็นตัวละครที่มีความมั่นคงในอารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง

สิ่งที่น่าสนใจในซีรีส์ สตรีหาญฉางเกอ

ฉาก

หลากหลายสถานที่ พระราชวัง บ้านเรือน กระโจมของเผ่าอาซือเล่อในดินแดนทุ่งหญ้า เสื้อผ้าหน้าผมและเครื่องแต่งกายสมกับยุคสมัย ดนตรีประกอบมีความหลากหลายและมีการเลือกนำมาใช้ได้พอเหมาะกับอารมณ์และเนื้อหาในช่วงนั้นๆ มีการใช้กราฟฟิกและอนิเมชันประกอบแทรกเปิดเรื่องและปิดเรื่อง รวมทั้งบางฉากบางตอนของการทำสงครามสู้รบ ให้อารมณ์ต้นฉบับของมังงะ ภาพที่แทรกวางซ้อนต่อซีนผสานกันได้ดี

ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและกลุ่มชาติพันธุ์

ตรงตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เคยเห็นแต่ภาพในหนังสือ และสารคดีในปัจจุบัน จินตนาการภาพในอดีตไม่ค่อยจะออก พอได้มาดูเรื่องนี้แล้ว คิดว่าเข้าใจกลุ่มชนเผ่าในดินแดนทุ่งหญ้ามากขึ้นอีกนิด การอยู่รวมกันเหมือนเป็นค่ายขนาดใหญ่ มีการแบ่งงานกันทำตามหน้าที่ มีความผูกพันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน มีหมอมดผู้ทำพิธีและปรุงยาสมุนไพร รักษาโรคและอาการบาดเจ็บ กลุ่มนักรบมีหน้าที่ปกป้องคุ้มกันภัยให้สมาชิกทั้งหมด ซีรีส์เรื่องนี้มีกองทัพที่แข็งแกร่ง 3 กองทัพ ได้แก่ กองทัพหมาป่า ผู้บัญชาการรบคือ เซอร์เออร์ ที่พ่วงตำแหน่งเค่อหานน้อยไว้ด้วย กองทัพอินทรี ผู้บัญชาการรบคือ อาซือเล่อสุ่น และกองทัพหมี ผู้บัญชาการรบคือ ถู่คาเชอร์ ทั้งสามกองทัพขึ้นตรงกับเจี๋ยลี่เค่อหาน หรือ เค่อหานใหญ่ ที่กลุ่มชนเผ่าอื่นๆ ต่างยำเกรง ทั้งสามกองทัพต่างแข่งขันกันแสดงความจงรักภักดี และเป็นที่วางใจของเค่อหานใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของคนภายใต้การปกครองของตนเอง ขอเพิ่มเติมนิดกองทัพหมาป่าเป็นกองทัพที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นกองทัพของเผ่าอาซือเล่อ ในทางประวัติศาสตร์คือ เผ่าอาชินา ซึ่งมีการใช้ภาพวาดหรือรูปแกะสลักหมาป่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเผ่า มีตำนานเล่าว่าพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากหมาป่า จึงต้องใช้สัญลักษณํนี้เพื่อไม่ให้ลืมบรรพบุรุษของตัวเอง กองกำลังหมาป่าคือกองกำลังของเค่อหานรวมถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งเค่อหานคนต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ก็คือ อาซือเล่อเชอร์เออร์

เข้าใจตัวละครจากดินแดนทุ่งหญ้าทั้งเค่อหานน้อยและอาซือเล่อสุ่น ต่างก็พึงพอใจที่จะใช้ชีวิตอิสระในที่โล่งกว้าง ที่สงบสุข ปราศจากสงคราม รู้สึกหลงรักทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ และแสงหิ่งห้อยในยามค่ำคืน การอยู่อาศัยในกระโจมที่พร้อมเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา ย้ายไปยังแหล่งน้ำและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เป็นไปได้ที่การขยายอาณาเขตพื้นที่ให้กว้างขวาง โดยไม่ได้มีการตั้งเมืองตั้งอาณาจักรเป็นหลักแหล่ง เป็นอาณาจักรที่เคลื่อนย้ายอยู่ตลอดเวลา เหมาะกับรูปแบบการดำรงชีวิตที่พึ่งพาธรรมชาติแบบนี้มากกว่า แสวงหาแหล่งอาหารแหล่งน้ำสำหรับปศุสัตว์แล้วก็ย้ายไป เพื่อให้ผืนดินได้พัก ต้นไม้มีเวลาเติบโต วนกลับมาอีกทีเมื่อหญ้าใหม่เริ่มเจริญงอกงามอีกครั้ง นึกถึงวิถีชีวิตแบบปกาเกอะญอที่พึ่งพาธรรมชาติ พวกเขาเดินทางข้ามภูเขาลูกนั้นลูกนี้ ฤดูกาลหนึ่งอาศัยในป่าแห่งหนึ่ง อีกฤดูกาลก็เคลื่อนย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่ง สำหรับพวกเขาป่าเขาลำเนาไพรไม่มีพรมแดนกั้น ตราบที่เท้ายังคงก้าวเดินไปถึง

ถ้าโลกทั้งใบไม่มีใครจับจองพื้นที่เป็นเจ้าของ ก็ไม่ต้องมีการตั้งรัฐ บ้าน เมือง อาณาจักร ผู้คนสามารถเดินไปที่ไหนก็ได้อย่างอิสระ ไม่มีคำว่าผู้อพยพ คนต่างถิ่น ไม่มีใครต้องครอบครองที่ดิน ช่างเป็นโลกในจินตนาการที่สวยงามอย่างกับความฝัน (มีแต่ในละครเท่านั้น) ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มคนที่รักการเดินทางเช่นนี้ คงไม่เกิดเส้นทางการค้าสายไหม สายเครื่องเทศ สายเพชรพลอย และอีกมากมาย เมื่อผู้คนมีการพบปะติดต่อกัน โลกทั้งใบก็เชื่อมต่อกันได้

เรื่องจริงในประวัติศาสตร์ จักรพรรดิถังไท่จงจัดการแก้ปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ ที่ถูกเจี๋ยลี่เค่อหานรุกราน ด้วยการสนับสนุนพวกเขา เป็นพันธมิตรกับต้าถัง ปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระ จัดตั้งรัฐบาลปกครองตนเอง จักรพรรดิถังไท่ส่งกองทัพไปปราบปรามกองกำลังของเจี๋ยลี่เค่อหาน จนในที่สุดก็สามารถเอาชนะและจับตัวเจี๋ยลี่เค่อหานเอาไว้ได้ อาชินาเชอร์เออร์ ถอยร่นและหนีไปทางทิศตะวันตก

ความกตัญญู

ในเรื่องนี้มีคู่ความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกบุญธรรม 2 คู่ คือ ตู้หรูฮุ่ย กับ ฮ่าวตู และ เจี๋ยลี่เค่อหาน กับ อาซือเล่อสุ่น ทั้งฮ่าวตูและอาซือเล่อสุ่นเหมือนกันตรงที่แสดงความกตัญญูและตอบแทนบุญคุณของพ่อบุญธรรม อย่างน่าประทับใจและซาบซึ้งใจมาก

ช่วงแรกก่อนที่หลี่ฉางเกอจะถูกจับไปเป็นเชลย มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของกงซุนเหิงเจ้าเมืองซั่วโจวในการวางแผนต่อสู้รับมือกับชนเผ่าอาซือเล่อที่ยกทัพมารุกราน ความคิดของพระเอกและนางเอกในเรื่องทันกันจริงๆ ครึ่งหลังของเรื่องยิ่งสนุกเข้าไปอีก นางเอกจะเข้าไปอยู่ในเผ่าอินทรีในฐานะที่ปรึกษาผู้ช่วยของพระเอก ก็ยังแอบคิดแผนการช่วยเหลือแผ่นดินต้าถังอยู่ตลอดเวลา ยังจับพลัดจับผลูเพราะภารกิจที่ตั้งใจช่วยไม่ให้เกิดสงครามใหญ่ ทำให้ต้องย้ายไปเผ่าหมาป่าของเค่อหานน้อย ถึงจะเคียดแค้นอารองที่สังหารพ่อแม่และผู้คนทั้งตำหนัก อยากโค่นบัลลังก์ของจักรพรรดิถังไท่จงใจจะขาด แต่ความรักในบ้านเกิดเมืองนอนและประชาชนตาดำๆ ก็ยังมีอยู่มากกว่า การเดินทางอันยาวนานของหลี่ฉางเกอจึงกลายเป็นการช่วยกอบกู้ต้าถังครั้งแล้วครั้งเล่า

กีฬาโบราณของจีน

การเล่นฟุตบอลของจีนโบราณ Cuju คล้ายกับการเล่นผสมผสานระหว่างฟุตบอลกับตะกร้อลอดบ่วง ดูไปลุ้นไปจริงๆ แต่ละคนฝีเท้าเทคนิคการเล่นแพรวพราว กระโดดตีลังกา เตะ โหม่ง คนไม่มีวิชากำลังภายใน เห็นทีจะเล่นยากเลยนะเนี่ย

Cuju เริ่มปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ 260 ปีก่อนคริสตกาล ในยุครณรัฐ เป็นกีฬาที่ออกแบบมาให้ทหารม้าใช้ฝึกฝนกล้ามเนื้อขาและการเคลื่อนไหวของร่างกาย แล้วต่อมาก็เริ่มเป็นที่นิยมกันในราชสำนัก ในหมู่ขุนนาง แล้วก็เผยแพร่ไปยังเกาหลี และญี่ปุ่น

เด็กๆ ก็เล่น Cuju กันสนุกสนาน

Cuju ก็เป็นที่นิยมในหมู่สตรีเช่นเดียวกัน

Cuju ในราชสำนักญี่ปุ่น

โดนซีรีส์เรื่องนี้ตกตั้งแต่ Ep.1 เลย ฉากเล่น Cuju นางเอกแอบขโมยชุดมาใส่ลงสนามประทะกับพระเอก

Big Boss ที่คาดไม่ถึง

องค์หญิงอี้เฉิง แห่งราชวงศ์สุ่ย ผู้ดำรงฐานะเค่อตุน มีชะตากรรมที่น่าสงสารมากที่สุด เริ่มจากการเป็นตัวแทนองค์หญิงอันยี่ ราชวงศ์สุ่ย ซึ่งสิ้นพระชนม์ลง เดินทางไปสมรสเพื่อกระชับสัมพันธไมตรีกับฉีหมิงเค่อหานแห่งเผ่าอาซือเล่อ หลังจากฉีหมิงเค่อหาน สิ้นชีพ ก็สมรสกับบุตรชายบุญธรรมของฉีหมิงเค่อหานสามคนตามลำดับ ได้แก่ ชิบิเค่อหาน ชู่หลัวเค่อหาน เจี๋ยลี่เค่อหาน ซึ่งตัวละครเค่อหานใหญ่ที่ปรากฏในซีรีส์เรื่อง สตรีหาญฉางเกอ นี้ก็คือ เจี๋ยลี่เค่อหาน สามีคนที่สี่คนสุดท้ายขององค์หญิงอี้เฉิง

หน้าตาดูใจดีมีเมตตา เห็นอกเห็นใจ อ่อนแอ ถูกรังแกง่าย

หลังเปิดเผยตัวตนว่าเป็น Master Mind เบื้องหลังความวุ่นวายต่างๆ ลุคก็เปลี่ยน แต่งหน้าจัด คิ้วเฉียงขึ้นเยอะเลย

ตัวละครนี้มาสร้างความวุ่นวายในเรื่อง แต่ถ้าเทียบกับชั้นเชิงและกลยุทธ์ อุบายในการวางแผน ยังสู้นางเอกและพระเอกของเรื่องไม่ได้ ฉางเกอกับอาสุ่น มองแผนการออกปรุโปร่งหมด แถมยังซ้อนแผนได้แนบเนียนและเหนือชั้นกว่ามาก น่าเสียดายที่ตัวละครฉางเกอและอาสุ่น ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์

พันธมิตรที่คาดไม่ถึง

อาซือเล่อ เชอร์เออร์ เค่อหานน้อย ออกมาแต่ละตอนมีความกวนและกลั่นแกล้งพระเอกหนักมาก ยอมกันไม่ได้ แข่งขันเพื่อจะเป็นคนโปรดของเค่อหานใหญ่ แต่ทำยังไงก็ไม่สามารถชนะได้สักที พระเอกเหนือชั้นกว่าเสมอ แข่งกันทุกเรื่องยกเว้นเรื่องหญิง ฉางเกอไม่ใช่สเป็คของเชอร์เออร์ รอดตัวไป แต่เมื่อถึงจุดพลิกผันเกิดขึ้น ก็ได้เห็นน้ำใสใจจริงของเค่อหานน้อยเชอร์เออร์ ที่เขาวางอาสุ่นไว้เป็นเหมือนเพื่อนแท้มาตลอด ตั้งอาสุ่นไว้เป็นคู่แข่งขันทำให้ตัวเขาเองต้องพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ มองในมุมยุคปัจจุบัน ก็มีคนแบบนี้อยู่เยอะนะ ไม่ได้เกลียดกัน แต่มองคนเหนือกว่าเป็นคู่แข่งขัน เพื่อให้เราพัฒนาตัวเองตามเขาไปให้ทัน

มาดเท่มาก ดูดุดันไปยังงั้น แต่ใจอ่อนและรักความถูกต้องยุติธรรม

มิตรภาพของลูกผู้ชาย น้ำตาซึมเลยฉากนี้

สปอยล์เนื้อหามาตั้งเยอะ แต่คิดว่าไม่เสียรสชาติในการดูซีรีส์เรื่องนี้มาก เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ได้ดูผลงานของอู๋เหล่ย 吴磊 หลังจากดูซีรีส์เรื่องดาราจักรรักลำนำใจจบแล้ว ก็ย้อนกลับมาดูเรื่องสตรีหาญฉางเกออีกรอบ ยืนยันอีกครั้งว่านักแสดงในเรื่องนี้ สวมบทบาทได้ดีมากจริงๆ สมกับรางวัลที่ได้รับ ติดตามชมกันได้ใน WeTV China Huace TV VIKI TencentVideo

ปิดท้ายด้วยฉากนี้ น่ารักมากมาย