ชิมไวน์ที่ Talamona
ชิมไวน์ที่ Talamona
อุตส่าห์รักษาศีลข้อห้ามาเป็นอย่างดี กว่าจะบังคับตัวเองไม่ให้ดื่มของมึนเมาได้ใช้เวลาเกินกว่าครึ่งชีวิต และแล้วศีลก็แตกจนได้ เมื่อได้รับคำเชิญชวนไปชิมไวน์ที่เมือง Talemona รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ เพราะมันเป็นเทรนด์มาพักใหญ่แล้ว ที่หลายเมืองมักจัดขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปชมบรรยากาศเมืองเก่าและห้องเก็บไวน์ใต้ดิน ที่เขาเรียกว่า Cantina พลาดโอกาสมาหลายหนแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไป ตั้งใจว่าจะถ่ายภาพห้องใต้ดินยุคโบราณมาให้เยอะๆ เลย
แผนที่สำหรับเดินไปยังจุดชิมไวน์
จุดชิมไวน์ที่หนึ่ง Cortile Mazzoni
จุดชิมไวน์ที่หนึ่ง Cortile Mazzoni
มีเนยแข็งหลากหลายชนิด เสริฟพร้อมไวน์ที่เปิดให้ชิม
เนยแข็งหลากหลายชนิดของ Valtellina เสริฟพร้อมกับ Marmalade
จุดชิมไวน์ที่สอง La Torre di Talamona
ด้านนอกต้องต่อคิว เขาจะแบ่งให้เข้าเป็นกลุ่ม
ภายในห้องเก็บไวน์ เปิดสปอตไลท์สว่างมาก
เบรซาวลาม้วนสองชิ้น ขนมปัง และไวน์
จุดชิมไวน์ที่สาม Cortile dei Levi
คนมารอต่อคิวลงไปชมห้องใต้ดินเยอะมาก
ห้องใต้ดินชั้นแรก
ห้องใต้ดินชั้นที่สองที่เก็บไวน์ซึ่งเป็นเป้าหมายของเรา
เตรียม Focaccia เป็นเครื่องเคียงเสริฟพร้อมกับไวน์
จุดชิมไวน์ที่ห้า Cortile dei Tartanoli (ข้ามจุดที่สี่ไป เพราะคิวยาวมาก)
ไม่มีคิวต้องต่อแถวข้างนอกเลย เดินเข้ามาได้สบายๆ
Polanta เสริฟคู่กับเนยแข็งร้อนๆ ด้านบน รสชาติเข้ากันดี แต่เพราะอากาศข้างนอกเย็นประมาณ 15°C ยังไม่ทันจะได้กิน เนยแข็งก็กลับสู่สภาพเดิมแล้ว Polenta ก็เย็นชืดไปนิด
ไม่มีห้องใต้ดินแต่มีส่วนที่เป็นโรงเรือนจัดแสดงอุปกรณ์การทำไวน์ไว้ ตกแต่งได้โบราณย้อนยุคสมัยมาก
จุดชิมไวน์ที่หก Palazzo Spini Valenti
ต่อคิวอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน
ลานด้านในของ Palazzo Spini Valenti เป็นที่รับรองแขกผู้มาชิมไวน์
จานนี้มี ขนมปังธรรมดา ขนมปังอบกระเทียม แอปเปิ้ลอบแห้ง เสริฟพร้อมมันหมูและเกาลัด ราดด้วยน้ำผึ้งและซอสแอปเปิ้ล
จุดชิมไวน์ที่เจ็ด Latteria Valenti
ต่อคิวไม่นานเท่าไร
รับไวน์ก่อนเข้าไปรอคิวแอปเปิ้ลทอด
เตรียมเนยแข็ง Piattone สำหรับเสริฟแอปเปิ้ลทอด
ภายในห้องปฏิบัติการและอุปกรณ์สำหรับทำเนยแข็ง
เนยแข็ง Piattone กับแอปเปิ้ลทอด ลืมถ่ายภาพก่อน เผลอกัดไปแล้วตั้งครึ่ง
จุดสุดท้าย Casa Uboldi
คิวยาวเหมือนกัน แต่จุดนี้เสริฟกาแฟกับผลไม้
เป็นผลไม้รวมกัน เหมือนฟรุตสลัด แอปเปิ้ล แพร์ องุ่น แอปพริคอต ใส่ถ้วยมาพร้อมช้อนมาให้ เราไม่ได้ไปรับกาแฟ กลัวนอนไม่หลับ
นับแล้วชิมไปทั้งหมด 6 แก้ว ไม่รู้สึกมึนเมาน่าจะเพราะกินอาหารรองท้องไปด้วย รวมทั้งต้องใช้พลังงานในการเดินไปรอบเมืองเพื่อดื่มแต่และแก้ว คงจะเผาผลาญแอลกอฮอล์ไปหมดแล้ว แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ปวดหัวนิดหน่อย ตื่นเช้ามาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพิ่งต้นเดือนตุลาคมอากาศยังไม่หนาวมากนัก ถ้ารอถึงเดือนหน้า ควรจะต้องเป็น Vin Brulé น่าจะอุ่นท้องดีเหมือนกัน