คีตาญชลี แสงสังข์

ทีมงานจันทร์เจ้าเอยได้รับเกียรติจากนักเขียนมือรางวัลอีกท่าน คุณเอ๋ คีตาญชลี แสงสังข์ เจ้าของผลงานแนวซีรีส์สืบสวนสอบสวน เปิดตัวละครหลักเป็นช่างภาพสาวชื่อ "ใบบัว" ในเรื่อง "นักสืบหลังเลนส์" ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์นานมีบุ๊กส์ เป็นผลงานชิ้นแรก ตามมาด้วยการไขคดีลำดับที่สองของ "ใบบัว" ในเรื่อง "รักเร้น-ตำรับอาหาร" ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศ "รางวัลประภัสสร เสวิกุล" ปีพ.ศ. 2559 

นอกจากนิยายแนวสืบสวนสอบสวนแล้ว คุณเอ๋ ยังเขียนนวนิยายสำหรับเยาวชน เรื่อง "น้ำตาแม่มด" ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 "รางวัลแว่นแก้ว" ครั้งที่ 14 และล่าสุดกับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กวัยรุ่น โครงการประกวดเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2563 จัดโดย อพวช. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหิดล สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย และ บริษัท GDH

เรียกได้ว่าเป็นเป็นมือกวาดรางวัลจริงๆ ตามทีมงานจันทร์เจ้าเอยมาทำความรู้จักคุณเอ๋ คีตาญชลี แสงสังข์ กันค่ะ

แนะนำตัวให้รู้จักนิดหนึ่ง

สวัสดีค่ะชื่อ คีตาญชลี แสงสังข์ เป็นคนจังหวัดสุโขทัย จบมัธยมจากโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ก่อนจะสอบโควต้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเรียนจบจากภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ 

อะไรเป็นจุดเริ่มให้จับปากกา

เริ่มแรกคืออยากเป็นนักเขียนการ์ตูน อ่านการ์ตูนมาหลายพันเล่ม แต่รู้สึกว่ายากไปเพราะต้องใช้ทักษะการวาดที่เชี่ยวชาญ เลยคิดว่างานเขียนเป็นงานที่ต้องคิดเรื่อง คิดตัวละคร ด้วยวิธีการสร้างเรื่องที่ใกล้เคียงกัน จึงหันมาสนใจงานนี้ 

คิดว่าอาชีพการงานที่ทำ มีส่วนทำให้มาเขียนนิยายด้วยไหม?

อาชีพที่ทำไม่ได้มีส่วนทำให้มาเขียนนิยาย แต่อาชีพที่ทำสามารถเอาข้อมูลมาเขียนนิยายได้ค่ะ 

จุดไหนที่ทำให้เขียนนิยายเรื่องแรก

ความสนใจเรื่องงานเขียนทำให้มีโอกาสไปอบรมชูช่อต่อยอดวรรณกรรมของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ จากการบ้านในการอบรมทำให้เกิดเป็นนวนิยายเรื่องแรกค่ะ

มีกี่นามปากกาเปิดเผยได้ไหม?

อีกนามปากกาหนึ่งคือ tenยอริต้า เขียนแนวแฟนตาซี 

เรื่องอะไรบ้าง?

เดริก้า กับศึกบัลลังก์แห่งปอโตโก 

ผลงานที่ภูมิใจที่สุดคือเรื่องอะไร อยากให้เล่าให้ฟัง มีที่มาอย่างไร

จริงๆภูมิใจทุกเรื่องเพราะไม่ได้เขียนหนังสือเยอะ แต่ถ้าถามว่ารางวัลสูงสุดสำหรับตัวเองก็คงจะเป็นรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งรางวัลแว่นแก้ว เรื่อง น้ำตาแม่มด เพราะเป็นเป็นรางวัลที่ตัวเองพยายามถึง 3 ครั้ง กว่าจะผ่าด่านเข้าไปจนได้รางวัลนี้

เรื่องน้ำตาแม่มดใช้เวลาคิดถึงโครงเรื่องถึง 1 ปีครึ่ง ใช้เวลาเขียนราวๆ 1 เดือนครึ่ง เป็นเรื่องที่อยากจะพูดเรื่องชีวิตและความตายให้เด็กวัยรุ่นฟังด้วยภาษาง่ายๆ เป็นพระพุทธศาสนาแบบง่ายๆ การดำเนินเรื่องก็สะท้อนภาพสังคมปัจจุบันของคนหลายรุ่น ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น ผู้ใหญ่วันทำงานไปจนถึงคนชราสมัยใหม่ ว่าเดี๋ยวนี้คนแก่ไม่ได้เกษียณมาเพื่อเลี้ยงหลาน เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวหรือเข้าวัดเหมือนสมัยก่อนแล้วนะ สังคมสมัยใหม่มีพื้นที่ให้คนชรามากขึ้น เท่าๆกับเด็กที่มีพื้นที่การแสดงออกมากขึ้น แต่แรงกดดันทางสังคม ความดิ้นรนมันก็มากขึ้นตามไปด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้วิชาจิตวิทยาที่ร่ำเรียนมาในการสร้างกระบวนการทางความคิดและผลต่างๆที่ตามมาของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งการใช้เวลาคิดโครงเรื่องถึง 1 ปีครึ่งจึงมีเวลา ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง เอาเป็นว่าคิดตั้งแต่เอสเห็นถังขยะหน้าบ้านมินท์ตอนต้นเรื่อง เชื่องโยงกับถังขยะในบ้านตัวเอง ซึ่งเป็นครอบครัวขยาย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ตัวเองพอใจมากๆค่ะ

งานเขียนที่จบแล้ว กำลังจะเผยแพร่มีเรื่องอะไรบ้าง

เขียนจบไปแล้วและคิดว่าจะเผยแพร่คือคดีที่ 3 ของใบบัว แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเปลี่ยนปกและตรวจสอบคดีที่ 2 คือเรื่อง รักเร้น-ตำรับอาหารให้เสร็จเรียบร้อยก่อน คดีที่ 3 (ชื่อเรื่องยังไม่ลงตัว) คาดว่าจะสามารถลงขายในรูปแบบอีบุ๊คได้ราวกลางเดือนมีนาคม อีกเรื่องเป็นแนวแฟนตาซีที่จะเน้นรูปประกอบในเรื่องตอนนี้ชื่อยังไม่ลงตัว เท่าที่วางแผนเอาไว้มีเท่านี้เพราะก็คิดว่าพอแล้ว เพราะทั้งสองเล่มได้วาดปกเอง และรู้สึกสนุกกับการวาดปกมาก 

งานเขียนที่กำลังเขียนต่อเนื่องมีอะไรบ้าง

ตอนนี้ยังไม่ได้ลงมือเขียนเรื่องใหม่ เพราะมีผลงานที่เขียนจบแล้วประมาณ 3 เรื่อง อยากจะเอาเวลาไปวาดรูปปก รูปประกอบเพื่อจะลองลงขายในรูปแบบออนไลน์มากกว่า 

ช่องทางในการติดตามผลงาน ติดตามได้ที่ไหนบ้าง

ปกติไม่ค่อยได้ลงผลงานอะไรมาก ชอบเขียนส่งประกวดมากกว่า ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ไม่ต้องมาจัดการเรื่องอื่นๆด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครอยากพูดคุยสามารถเข้ามาพูดคุยได้ที่ facebook : gitanjali saengsangหรือ facebookfanpage : Gitanjali S. - Art anime ซึ่งลงผลงานวาดรูปเอาไว้ในนั้น ในอนาคตอาจจะเอาผลงานเขียนลงในแฟนเพจด้วย และจะพยายามปรับตัวมาสู่โลกออนไลน์ให้มากขึ้น 

นักเขียนสาวคนเก่งนอกจากจะมีลายเส้นปากกาคมชัดแล้ว พู่กันในมือยังสะบัดพลิ้ว ลายเส้นมีเอกลักษณ์มากค่ะ ทั้งวาดปกเอง ทั้งเขียนเรื่องเอง พลังเหลือล้นจนทีมงานจันทร์เจ้าเอย ทึ่งกันไปตามๆ กันเลยค่ะ

ขอขอบคุณคุณเอ๋ คีตาญชลี แสงสังข์ ที่ให้เกียรติทีมงานได้นำบางแง่มุมมาเปิดเผยให้นักอ่านได้รู้จักกันค่ะ 

  • by ทีมงานจันทร์เจ้าเอย
  • | แวดวงหนังสือ