นวนิยาย ปรารถนา โดย ภวันดร

“ผี” “นักมวย” “คุณตาบก.”

นวนิยายเรื่อง “ปรารถนา” ที่อยู่ในมือของนักอ่านขณะนี้นั้น ภวันดรใช้เวลาในการขยายไอเดียจากคำสำคัญทั้งสามข้างต้น สร้างตัวละคร เหตุการณ์และเรื่องราว ภวันดรใช้เวลาในการขมวดไอเดียที่เริ่มผุดขึ้นมาทีละน้อยทีละนิด และแน่นอนว่าภวันดรให้ความสำคัญและใส่ใจกับปมปัญหาของตัวละคร เขาใช้เวลาอยู่หลายปีในการปรับปรุงแก้ไขต้นฉบับให้เหตุการณ์และเรื่องราวมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เหมือนการถักทอลูกไม้ที่ใช้ความละเอียดประณีตพิถีพิถัน

เรื่องเล่าเกี่ยวกับผีนักมวยที่ได้ฟังครั้งแรกนั้น ภวันดรตั้งใจจะให้ ‘ระริน’ นางเอกของเรื่องเป็นนักดนตรี จับพลัดจับผลูไปมายังไงไม่รู้ จากนักดนตรีมือกลองกลายมาเป็นนักแบดมินตัน…คาดว่าจะมีที่มาจากนักแบดมินตันในดวงใจของคุณภวันดรก็น่าจะเป็นได้ ส่วนพระเอก ‘คีรี’ เคยเป็นอดีตนักมวยเด็ก แต่มาขยายเพิ่มให้ประกอบอาชีพช่างภาพทางการแพทย์ พอได้อ่านนิยายจนจบก็จะทราบเหตุและผลว่าทำไมพระเอกของเรื่องถึงยึดอาชีพนี้

 ดราม่า…นำ้ตาซึมเป็นบางฉาก แต่ไม่ถึงกับปวดตับ ไต ไส้ พุง มีเบรคอารมณ์พอขำบ้าง โทนของเรื่องเน้นสายสัมพันธ์ของตัวละครภายในครอบครัว ปูมหลังของตัวละครมีปมปัญหาซับซ้อนเชื่อมโยงและเกี่ยวพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง 

ภวันดรให้ความใส่ใจกับการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากเป็นพิเศษ และนั่นทำให้นิยายของภวันดรมีกระแสของความอบอุ่นผูกพันเชื่อมโยงกัน ตัวละครมีความปรารถนาดีต่อกัน โดยไม่มีการเขียนคำว่า “รัก” จากปากตัวละคร นับเป็นเสน่ห์งานเขียนสไตล์ถนัดของภวันดร

ถ้านักอ่านติดตามงานเขียนของภวันดรที่ผ่านมา จะรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับอาชีพของตัวละครเป็นอย่างยิ่ง และโดยเฉพาะนักกีฬา มักจะมีตัวละครสำคัญที่รับบทบาทในเรื่องเป็นนักกีฬาประเภทใดประเภทหนึ่งอยู่เสมอ เรื่องนี้ก็เช่นกันมีการกล่าวถึงกีฬาสองประเภท แบดมินตันและมวยไทย แม้ตัวเอกจะเป็นนักแบดมินตันแต่นำ้หนักเรื่องทั้งหมดเทไปที่วงการกีฬามวยไทย มีเกร็ดประวัตินักมวยไทยที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศบางท่าน อย่าง อภิเดช ศิษย์หิรัญ และข้อมูลในแวดวงมวยไทย จากคุณตา บก. กูรูกีฬามวยไทยที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง ก็คือคุณพ่อของภวันดร นิยายเล่มนี้ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัตินักมวยไทย ที่คุณพ่อของเขาเก็บข้อมูลเอาไว้เป็นคลังสมบัติที่มีค่ายิ่ง

‘ระริน’ ตัวละครหลักของเรื่องมีความโก๊ะตามแบบฉบับนางเอกในดวงใจของภวันดร รักครอบครัว ตรงไปตรงมา สายเฮฮาปาร์ตี้และซุกซนเป็นบางครั้ง เรื่องราวเริ่มต้นที่การขึ้นมากทม.ของปู่ชาญและพี่เม่นมาขอความช่วยเหลือจากระรินให้ช่วยตามหาญาติ ภารกิจช่วยเหลือผีให้ได้พบญาติจึงได้เริ่มต้นขึ้น ระหว่างช่วยเหลือผีไม่มีญาติ ระรินเองก็มีปัญหาของตัวเองและภายในครอบครัวที่ต้องสะสาง ตัวละครสนับสนุนอย่างเพื่อนสนิท ‘บุหงา’ และ น้องชายอย่าง ‘สิบทิศ’ ก็มีส่วนช่วยในการผลักดันให้ ‘ระริน’ ปฏิบัติภารกิจไปจนสำเร็จลุล่วง

ตัวละครมีหลากหลายวัย ต่างก็มีมิติและเงามืดที่เก็บซ่อนไว้ ดังนั้นการกระทำของตัวละครจึงเป็นเหตุเป็นผล สอดคล้องกับปมความขัดแย้งภายในจิตใจ เทคนิคที่ภวันดรใช้ในสไตล์งานเขียนของเขา และมีเสน่ห์อย่างมากก็คือ “คนอ่านรู้แต่ตัวละครไม่รู้” ทำให้นักอ่านเลือกเข้าข้างและเอาใจช่วยตัวละครให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปจนตลอดเรื่อง

บางครั้งเมื่อประสบความทุกข์ เราอาจต้องการเพียงแค่ คนที่นั่งอยู่เคียงข้างเงียบๆ แต่พร้อมที่จะยื่นไหล่ให้พักพิง และมือคอยซับนำ้ตา ‘บุหงา’ กับ ‘สิบทิศ’ เป็นตัวละครที่ภวันดรสร้างมาให้ช่วยฟื้นฟูเยียวยาตัวละครอื่นๆ

คนหนุ่มสาวมักจะมีความฝันและการทำให้ฝันเป็นจริงได้นั้น ย่อมต้องอาศัยความปรารถนาเป็นแรงผลักดัน เช่นเดียวกับตัวละครทั้งหลายที่ต่างแสดงบทบาทของตนเองในนิยายเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นลุงเม่น คุณปู่ชาญ ระริน คีรี บุหงา ต่างก็มีแรงปรารถนาที่ขับเคลื่อนตัวเองส่งไปสู่จุดมุ่งหมายของชีวิตด้วยกันทั้งนั้น

อ่านเรื่องนี้จบลงก็มีคำถามที่ผุดขึ้นในใจ “คนเรามีชีวิตได้โดยไม่ต้องทำตามความฝันหรือเปล่า?” หรือ “ความฝันเราจะเปลี่ยนแปลงไปได้บ้างไหม?” หรือ “บางทีความฝันกับเป้าหมายในชีวิตอาจจะไม่ใช่สิ่งเดียวกันหรือไม่?” บางทีเมื่ออายุมากขึ้น เราอาจจะฝันน้อยลง และมองเพียงแค่สิ่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญของชีวิตมากขึ้นแทน

มีจำหน่ายในรูปแบบอีบุ้ก ที่ Meb Market